ข้อ 1 คำนิยามของนิพจน์เฉพาะต่างๆ ในเงื่อนไขเหล่านี้
1.1 เมื่อท่านอ่านเงื่อนไขเหล่านี้ โปรดทราบว่า:
"เรา", "ของสายการบิน" "สายการบิน" และ "พวกสายการบิน" หมายถึงสายการบินศรีลังกาจำกัด
"ผู้โดยสาร", "ของผู้โดยสาร" และ "พวกผู้โดยสาร" หมายถึงบุคคลใดๆ ยกเว้นพนักงานบริการบนอากาศยาน ที่อยู่บนเครื่องบินตามตั๋วโดยสาร (ดูคำจำกัดความของ "ผู้โดยสาร").
สถานที่หยุดจอดตามที่ตกลง หมายถึงสถานที่ต่างๆ ยกเว้นสถานที่ต้นทางและสถานที่ปลายทางที่ระบุไว้ในตั๋วโดยสารหรือที่แสดงในตารางเวลาของเราว่าเป็นสถานที่แวะพักตามกำหนดการในเส้นทางของท่าน
รหัสผู้ให้บริการสายการบิน หมายถึง อักขระสองหรือสามตัวที่ระบุผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศรายใดรายหนึ่ง
ตัวแทนที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย หมายถึง ตัวแทนจำหน่ายตั๋วโดยสารที่เราแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของเราในการขายการขนส่งทางอากาศในบริการของเรา
สัมภาระ หมายถึงทรัพย์สินส่วนตัวของท่านในการเดินทางของท่าน เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น จะประกอบด้วยทั้งสัมภาระที่ท่านเช็คอินและสัมภาระที่ท่านนำขึ้นเครื่อง
ใบโหลดสัมภาระ หมายถึง ส่วนของตั๋วโดยสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสัมภาระที่ท่านโหลดใต้ท้องเครื่อง
ป้ายติดสัมภาระ หมายถึง เอกสารที่ออกเพื่อระบุสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น
ผู้ขนส่ง หมายถึงผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศที่ไม่ใช่ตัวเรา ซึ่งมีรหัสสายการบินปรากฏบนตั๋วโดยสารของท่านหรือบนตั๋วร่วม
สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง หมายถึง สัมภาระที่เราดูแลและเราได้ออกใบโหลดสัมภาระให้
กำหนดเวลาเช็คอิน หมายถึงกำหนดเวลาที่สายการบินกำหนดให้ท่านจะต้องดำเนินการเช็คอินให้แล้วเสร็จและรับบอร์ดดิ้งพาส
เงื่อนไขของสัญญา หมายถึง ข้อความที่มีอยู่ในหรือจัดส่งพร้อมกับตั๋วโดยสารหรือแผนการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงินของท่าน ที่ระบุเงื่อนไขของการขนส่งและประกาศต่างๆ เป็นข้อมูลอ้างอิง
ตั๋วโดยสารร่วม หมายถึง ตั๋วโดยสารที่ออกให้แก่ท่านโดยเกี่ยวข้องกับตั๋วโดยสารอื่น ซึ่งรวมกันถือเป็นสัญญาการขนส่งฉบับเดียว
อนุสัญญา หมายถึงตราสารใดต่อไปนี้ที่มีผลบังคับใช้:
- อนุสัญญาว่าด้วยการรวมกฎเกณฑ์บางประการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ลงนามที่กรุงวอร์ซอ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1929 (ต่อไปนี้จะเรียกว่าอนุสัญญาวอร์ซอ)
- อนุสัญญาวอร์ซอซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมที่กรุงเฮก เมื่อวันที่ 28 กันยายน 1955
- อนุสัญญาวอร์ซอซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 ของมอนทรีออล (1975)
- อนุสัญญาวอร์ซอซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมที่กรุงเฮกและโดยพิธีสารเพิ่มเติมหมายเลข 2 ของมอนทรีออล (1975)
- อนุสัญญาวอร์ซอซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมที่กรุงเฮกและโดยพิธีสารเพิ่มเติมหมายเลข 4 ของมอนทรีออล (1975)
- อนุสัญญาเสริมกวาดาลาฮารา (1961)
- อนุสัญญามอนทรีออล (1999)
คูปอง หมายถึง ทั้งคูปองเที่ยวบินแบบกระดาษและคูปองแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคูปองแต่ละใบให้สิทธิ์แก่ผู้โดยสารที่มีชื่อระบุในการเดินทางในเที่ยวบินเฉพาะที่ระบุไว้ในคูปอง
ความเสียหาย รวมถึงการเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือการบาดเจ็บทางร่างกายของผู้โดยสาร การสูญหาย การสูญหายบางส่วน การโจรกรรม หรือความเสียหายอื่นๆ ต่อสัมภาระ ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการขนส่งหรือบริการอื่นๆ ที่เราให้บริการ
วัน หมายถึง วันตามปฏิทิน รวมถึงวันทั้งเจ็ดในสัปดาห์ โดยมีเงื่อนไขว่าเพื่อวัตถุประสงค์ในการแจ้ง จะไม่นับวันที่ส่งหนังสือแจ้ง และกำหนดเพิ่มเติมว่าเพื่อวัตถุประสงค์ในการกำหนดระยะเวลาสำหรับการใช้ตั๋วโดยสาร โดยจะไม่นับวันที่ออกตั๋วหรือการเริ่มต้นการบิน
คูปองอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง คูปองเที่ยวบินแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือเอกสารแสดงมูลค่าอื่นๆ ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสายการบิน
ตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึงแผนการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงินที่สายการบินออกหรือผู้ที่กระทำการแทนสายการบินในรูปแบบคูปองอิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารสำหรับการขึ้นเครื่อง หากมี
คูปองเที่ยวบิน หมายถึง ส่วนใดๆ ของตั๋วโดยสารที่มีข้อความว่า "ส่วนที่ดีสำหรับการเดินทาง" หรือในกรณีของตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ คูปองอิเล็กทรอนิกส์ และระบุสถานที่เฉพาะที่ท่านมีสิทธิ์เดินทาง
เหตุสุดวิสัย หมายถึง สถานการณ์ที่ไม่ปกติและไม่อาจคาดเดาได้ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของท่าน ซึ่งผลที่ตามมาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าจะใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วก็ตาม
รายละเอียดการเดินทาง/ใบเสร็จรับเงิน หมายถึง เอกสารใดๆ ที่สายการบินออกให้หรือโดยผู้อื่นที่ออกแทนสายการบินให้กับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วยชื่อผู้โดยสาร ข้อมูลเที่ยวบิน และประกาศต่างๆ
ผู้โดยสาร หมายถึง บุคคลใดๆ ยกเว้นพนักงานบริการบนอากาศยาน ที่เดินทางในเครื่องบินตามตั๋วโดยสาร (ดูคำจำกัดความของ "ผู้โดยสาร", "ของผู้โดยสาร" และ "พวกผู้โดยสาร").
คูปองผู้โดยสารหรือใบเสร็จรับเงินของผู้โดยสาร หมายถึงส่วนใดๆ ของตั๋วที่สายการบินออกให้หรือโดยผู้อื่นแทนสายการบิน ซึ่งมีการทำเครื่องหมายไว้และที่สุดท้ายจะต้องมอบให้ท่านเก็บรักษาไว้
สิทธิพิเศษถอนเงิน เป็นหน่วยบัญชีระหว่างประเทศที่กำหนดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของสกุลเงินชั้นนำต่างๆ ค่าสกุลเงินของสิทธิพิเศษถอนเงินมีความผันผวนและมีการคำนวณใหม่ในแต่ละวันทำการธนาคาร ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ทราบค่าเหล่านี้เป็นอย่างดีและจะมีการายงานเป็นประจำในวารสารทางการเงินชั้นนำ
จุดที่พักจอด หมายถึง จุดที่พักจอดตามกำหนดการในการเดินทางของท่าน ณ จุดระหว่างสถานที่ที่ออกเดินทางและสถานที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง
อัตราค่าบริการ หมายถึง ค่าโดยสาร ค่าธรรมเนียม และ/หรือเงื่อนไขการขนส่งที่เกี่ยวข้องของสายการบินที่เผยแพร่และที่แจ้งไว้ต่อหน่วยงานที่เหมาะสม หากจำเป็น
ตั๋วโดยสาร หมายถึงเอกสารที่เรียกว่า "ตั๋วโดยสารและใบโหลดสัมภาระ" หรือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ในแต่ละกรณีที่ออกให้โดยสายการบินหรือออกโดยผู้อื่นในนามของสายการบิน และรวมถึงเงื่อนไขของสัญญา ประกาศ และคูปองต่างๆ
สัมภาระที่ไม่โหลดใต้ท้องเครื่อง หมายถึง สัมภาระใดๆ ของท่านที่ไม่ใช่สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
ข้อ 2 การบังคับใช้
2.1 ทั่วไป
ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 และ 2.4 ให้นำเงื่อนไขการขนส่งของสายการบินมาใช้เฉพาะกับเที่ยวบิน หรือขาเที่ยวบินที่สายการบินมีความรับผิดทางกฎหมายต่อท่านเท่านั้น
2.2 การดำเนินการแบบเช่าเหมาลำ
หากมีการดำเนินการขนส่งตามข้อตกลงแบบเช่าเหมาลำ เงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้จะใช้บังคับเฉพาะในขอบเขตที่รวมไว้โดยการอ้างอิงหรืออย่างอื่นในข้อตกลงแบบเช่าเหมาลำหรือตั๋วโดยสารเท่านั้น
2.3 การใช้รหัสร่วมกัน
ในบางบริการเราอาจมีข้อตกลงกับผู้ให้บริการรายอื่นที่เรียกว่า "การใช้รหัสร่วมกัน" ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าท่านจะได้สำรองที่นั่งกับเราและถือตั๋วโดยสารที่ระบุชื่อหรือรหัสสายการบินของเราว่าเป็นสายการบินที่ให้บริการ ผู้ให้บริการรายอื่นอาจให้บริการเครื่องบินดังกล่าวได้ หากข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสายการบินที่ให้บริการเครื่องบิน ณ เวลาที่ท่านทำการสำรองที่นั่ง
สำหรับเที่ยวบินที่ใช้รหัสร่วมกันที่บินไปหรือกลับจากสนามบินของสหรัฐอเมริกา แผนสำรองสำหรับกรณีความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ของผู้ให้บริการที่ใช้รหัสร่วมกันนั้นจะใช้บังคับกับความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ ณ สนามบินของสหรัฐอเมริกา หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับแผนสำรองสำหรับกรณีความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ของพันธมิตรที่ใช้รหัสร่วมกันของเรา โปรดติดต่อพันธมิตรของเราโดยตรงหรือไปที่เว็บไซต์ของพันธมิตรของเรา
2.4 กฎหมายที่มีอำนาจเหนือกว่า
เงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้มีผลบังคับใช้ถ้าไม่ขัดต่อพิกัดอัตราค่าโดยสารของเราหรือกฎหมายที่บังคับใช้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวให้ยึดตามพิกัดอัตราค่าโดยสารหรือกฎหมายดังกล่าว
หากข้อกำหนดใดๆ ของเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้ไม่ถูกต้องภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ บทบัญญัติอื่นๆ จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
2.5 เงื่อนไขที่เหนือกว่าข้อบังคับ
ยกเว้นตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้ ในกรณีที่มีความไม่สอดคล้องกันระหว่างเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้กับข้อบังคับอื่นๆ ที่เราอาจมี โดยเกี่ยวข้องกับหัวข้อเฉพาะ ให้ยึดตามเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้
ข้อ 3 ตั๋วโดยสาร
3.1 บททั่วไป
3.1.1 เราจะให้บริการขนส่งเฉพาะผู้โดยสารที่มีชื่ออยู่ในตั๋วโดยสารเท่านั้น และท่านอาจต้องแสดงบัตรประจำตัวที่เหมาะสม
3.1.2 ตั๋วโดยสารไม่สามารถโอนได้ ยกเว้นตามที่กฎหมายที่บังคับใช้ในท้องถิ่นกำหนดไว้
3.1.3 ตั๋วโดยสารบางใบจำหน่ายในราคาส่วนลดซึ่งอาจไม่สามารถขอคืนเงินบางส่วนหรือทั้งหมดได้ ท่านควรเลือกค่าโดยสารที่เหมาะสมกับความต้องการของท่านมากที่สุด ท่านอาจต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านมีประกันที่เหมาะสมเพื่อครอบคลุมในกรณีที่ท่านต้องยกเลิกตั๋วโดยสารของท่าน
3.1.4 หากท่านมีตั๋วโดยสารตามที่อธิบายไว้ในข้อ 3.1.3 ข้างต้น ซึ่งยังไม่ได้ใช้ และท่านไม่สามารถเดินทางได้เนื่องจากเหตุสุดวิสัย โดยมีเงื่อนไขว่าท่านต้องแจ้งให้เราทราบทันทีและจัดเตรียมหลักฐานของเหตุสุดวิสัยดังกล่าว เราจะให้เครดิตกับท่านในจำนวนค่าโดยสารที่ไม่สามารถขอคืนได้ที่ท่านสามารถนำมาใช้สำหรับการเดินทางในอนาคตกับเราได้ โดยจะมีการหักค่าธรรมเนียมการจัดการที่สมเหตุสมผล
3.1.5 ตั๋วโดยสารเป็นและยังคงเป็นทรัพย์สินของสายการบินที่ออกตั๋วโดยสารตลอดเวลา
3.1.6 ยกเว้นในกรณีที่เป็นตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ท่านจะไม่มีสิทธิ์ขึ้นเครื่องในเที่ยวบิน เว้นแต่ท่านจะแสดงตั๋วโดยสารที่ถูกต้องซึ่งมีคูปองเที่ยวบินสำหรับเที่ยวบินนั้นและคูปองเที่ยวบินอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ใช้และคูปองผู้โดยสารทั้งหมด นอกจากนี้ ท่านจะไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นเครื่องหากตั๋วโดยสารที่ท่านนำมาแสดงถูกทำลายหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นที่สายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบินไม่ได้เป็นผู้กระทำ ในกรณีที่เป็นตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ท่านจะไม่มีสิทธิ์เดินทางบนเที่ยวบิน เว้นแต่ท่านจะแสดงบัตรประจำตัวของท่านและมีการออกตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องในนามของท่าน
3.1.7 ในกรณีที่ตั๋วโดยสารสูญหายหรือถูกทำลาย (หรือบางส่วน) โดยท่าน หรือการไม่แสดงตั๋วโดยสารที่มีคูปองผู้โดยสารและคูปองเที่ยวบินที่ยังไม่ได้ใช้ทั้งหมด สายการบินจะเปลี่ยนตั๋วโดยสารดังกล่าว (หรือบางส่วน) ด้วยการออกตั๋วโดยสารใหม่ตามคำร้องขอของท่านหากมีหลักฐานที่ยืนยันได้ทันทีในขณะนั้นว่าตั๋วโดยสารที่ถูกต้องสำหรับเที่ยวบินดังกล่าวนั้นเป็นตั๋วโดยสารที่ออกอย่างถูกต้อง และท่านลงนามในข้อตกลงเพื่อคืนเงินให้สายการบินสำหรับค่าใช้จ่ายและความสูญเสียใดๆ สูงสุดเท่ากับมูลค่าของตั๋วโดยสารเดิมซึ่งจำเป็นและสมเหตุสมผลที่สายการบินหรือผู้ให้บริการรายอื่นต้องชำระจากการใช้ตั๋วโดยสารในทางที่ผิด เราจะไม่เรียกร้องการชดใช้จากท่านสำหรับการสูญเสียใดๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความประมาทเลินเล่อของสายการบิน ผู้ให้บริการขนส่งที่ออกตั๋วโดยสารอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการที่สมเหตุสมผลสำหรับบริการนี้ เว้นแต่การสูญหายหรือความเสียหายนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ให้บริการขนส่งหรือตัวแทนที่ออกตั๋วโดยสาร
3.1.8 ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานดังกล่าวหรือท่านไม่ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว สายการบินที่ออกตั๋วโดยสารใหม่อาจขอให้ท่านชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเต็มจำนวนสำหรับตั๋วโดยสารทดแทน โดยจะต้องคืนเงินหากและเมื่อผู้ให้บริการที่ออกตั๋วโดยสารเดิมยืนยันว่าตั๋วโดยสารที่สูญหายหรือชำรุดไม่ได้ถูกนำไปใช้ก่อนวันหมดอายุ หากท่านพบตั๋วโดยสารเดิมก่อนวันหมดอายุแล้วท่านส่งมอบตั๋วโดยสารดังกล่าวให้กับผู้ให้บริการที่ออกตั๋วโดยสารใหม่ ท่านจะได้รับเงินคืนข้างต้นในขณะนั้น
3.1.9 ตั๋วโดยสารเป็นของมีค่า และท่านควรใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องตั๋วโดยสารไม่สูญหาย ถูกขโมย เสียหาย หรือถูกทำลาย
3.2 อายุตั๋วโดยสาร
3.2.1 ยกเว้นว่าจะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในตั๋วโดยสาร ในเงื่อนไขเหล่านี้ หรือพิกัดอัตราค่าขนส่งที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจจำกัดอายุตั๋วโดยสาร ซึ่งในกรณีนี้อายุตั๋วโดยสารจะถูกแสดงไว้บนตั๋วโดยสาร) ตั๋วโดยสารมีอายุ: (ก) หนึ่งปี นับแต่วันที่ออก หรือ (ข) ขึ้นอยู่กับการเดินทางครั้งแรกที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งปีนับจากวันที่ออก หนึ่งปีนับจากวันเดินทางครั้งแรกโดยใช้ตั๋วโดยสารดังกล่าว
3.2.2 เมื่อท่านไม่สามารถเดินทางก่อนตั๋วโดยสารจะหมดอายุเนื่องจากในเวลาที่ท่านต้องการสำรองที่นั่ง เราไม่สามารถหาที่นั่งให้ท่านได้ตามที่ท่านต้องการ สายการบินจะต่ออายุตั๋วโดยสารดังกล่าวไปจนกว่าสายการบินจะสามารถยืนยันการสำรองที่นั่งได้ภายใต้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับพิกัดอัตราค่าขนส่งที่เกี่ยวข้อง หรือท่านอาจมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนตามข้อ 10
3.2.3 หากหลังจากเริ่มการเดินทางแล้ว ท่านไม่สามารถเดินทางได้ก่อนที่ตั๋วโดยสารจะหมดอายุเนื่องจากมีการเจ็บป่วย สายการบินอาจ (ภายใต้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับพิกัดอัตราค่าขนส่งที่ใช้บังคับ) ต่ออายุตั๋วโดยสารของท่านจนถึงวันที่ท่านจะมีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้หรือจนกว่าจะมีเที่ยวบินแรกของสายการบินหลังจากวันที่ดังกล่าวนับจากจุดที่ทำการเดินทางต่อที่มีที่นั่งว่างในชั้นบริการที่ท่านชำระค่าโดยสารแล้ว การเจ็บป่วยดังกล่าวจะต้องได้รับการรับรองจากใบรับรองแพทย์ ซึ่งสายการบินอาจต้องได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสายการบิน เมื่อคูปองเที่ยวบินที่เหลืออยู่ในตั๋วโดยสารหรือในกรณีที่เป็นตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ คูปองอิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวข้องกับจุดที่พักจอดอย่างน้อยหนึ่งจุด สายการบินอาจต่ออายุตั๋วโดยสารดังกล่าวออกไปได้ไม่เกินสามเดือนนับจากวันที่ที่แสดงบนใบรับรองดังกล่าว ในสถานการณ์เช่นนี้ สายการบินจะต่ออายุตั๋วโดยสารของสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวของท่านที่เดินทางไปกับท่านด้วยเช่นกัน
3.2.4 ในกรณีที่ผู้โดยสารเสียชีวิตระหว่างทาง ตั๋วโดยสารของบุคคลที่ร่วมเดินทางกับผู้โดยสารอาจได้รับการแก้ไขโดยยกเลิกระยะเวลาการเข้าพักขั้นต่ำหรือต่ออายุตั๋วโดยสาร ในกรณีที่สมาชิกในครอบครัวของผู้โดยสารที่เริ่มการเดินทางแล้วเสียชีวิต อายุตั๋วโดยสารของผู้โดยสารและสมาชิกในครอบครัวของผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางด้วยอาจได้รับการแก้ไขเช่นเดียวกัน ให้ดำเนินการแก้ไขใดๆ ดังกล่าวทันทีที่ได้รับมรณะบัตรที่ถูกต้อง และการต่ออายุตั๋วโดยสารดังกล่าวจะต้องไม่เกินสี่สิบห้า (45) วัน นับจากวันที่เสียชีวิต
3.3 ลำดับคูปองและการใช้งาน
3.3.1 ตั๋วโดยสารที่ท่านซื้อนั้นใช้ได้เฉพาะกับการขนส่งตามที่แสดงบนตั๋วโดยสารเท่านั้น จากสถานที่ที่ออกเดินทางผ่านสถานที่หยุดจอดตามที่ตกลงไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย ค่าโดยสารที่ท่านชำระจะขึ้นอยู่กับพิกัดอัตราค่าขนส่งของสายการบินและเป็นค่าขนส่งตามที่แสดงบนตั๋วโดยสาร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสัญญาระหว่างสายการบินกับท่าน ตั๋วโดยสารจะไม่สามารถใช้งานได้และจะหมดอายุหากไม่ได้ใช้คูปองทั้งหมดตามลำดับที่ให้ไว้ในตั๋วโดยสาร
3.3.2 หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงด้านใด ๆ ของการขนส่งของท่าน ท่านต้องติดต่อสายการบินล่วงหน้า สายการบินจะคำนวณค่าโดยสารสำหรับการขนส่งใหม่ของท่าน และท่านจะได้รับตัวเลือกที่จะยอมรับราคาใหม่หรือจะคงการขนส่งเดิมของท่านไว้ตามตั๋วโดยสาร หากท่านจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการเดินทางของท่านเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ท่านต้องติดต่อสายการบินโดยเร็วที่สุดและสายการบินจะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อขนส่งท่านไปยังจุดที่พักจอดถัดไปหรือจุดหมายปลายทางสุดท้ายโดยไม่ต้องคำนวณค่าโดยสารใหม่
3.3.3 หากท่านเปลี่ยนการขนส่งโดยไม่มีข้อตกลงกับสายการบิน สายการบินจะประเมินราคาที่ถูกต้องสำหรับการเดินทางจริงของท่าน ท่านจะต้องจ่ายส่วนต่างระหว่างราคาที่ท่านจ่ายและราคารวมที่ใช้สำหรับการขนส่งที่แก้ไขแล้วของท่าน สายการบินจะคืนเงินส่วนต่างให้ท่านหากราคาใหม่ต่ำกว่า มิฉะนั้นคูปองที่ยังไม่ได้ใช้ของท่านจะไม่มีมูลค่า
3.3.4 โปรดทราบว่าแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางประเภทจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าโดยสาร แต่การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนสถานที่ต้นทาง (เช่น หากท่านไม่ได้บินในส่วนแรก) หรือท่านเดินทางในทิศทางที่กลับกัน อาจส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ ค่าโดยสารพิเศษหลายรายการใช้ได้เฉพาะในวันที่และเที่ยวบินที่แสดงบนตั๋วโดยสารเท่านั้น และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย หรือเปลี่ยนได้เฉพาะเมื่อชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเท่านั้น
3.3.5 คูปองเที่ยวบินแต่ละใบที่อยู่ในตั๋วโดยสารของท่านจะสามารถใช้ได้สำหรับการขนส่งในชั้นบริการในวันที่และเที่ยวบินที่ได้สำรองที่นั่งไว้ เมื่อมีการออกตั๋วโดยสารโดยไม่ได้ระบุการสำรองที่นั่ง ท่านสามารถสำรองที่นั่งได้ในภายหลังโดยขึ้นอยู่กับพิกัดอัตราค่าขนส่งของสายการบินและความพร้อมของที่นั่งในเที่ยวบินที่ต้องการ
3.4 ชื่อและที่อยู่ของผู้ขนส่ง
ชื่อของสายการบินอาจถูกย่อเป็นรหัสสายการบินของสายการบิน หรือในรูปแบบอื่นในตั๋วโดยสาร ที่อยู่ของสายการบินคือ #22-01 East Tower, World Trade Centre, Echelon Square, Colombo 1, Sri Lanka โปรดดูตารางเวลาของสายการบินสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการติดต่อเรา
ข้อ 4 ค่าโดยสาร ภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการต่างๆ
4.1 ค่าโดยสาร
ค่าโดยสารจะใช้เฉพาะสำหรับการขนส่งจากสนามบินต้นทางไปยังสนามบินปลายทางเท่านั้น เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นโดยชัดแจ้ง ค่าโดยสารไม่รวมบริการขนส่งภาคพื้นดินระหว่างสนามบิน และระหว่างสนามบินกับอาคารผู้โดยสารในเมือง ค่าโดยสารของท่านจะได้รับการคำนวณตามพิกัดอัตราค่าขนส่งของสายการบินซึ่งมีผลในวันที่ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารสำหรับการเดินทางในวันที่ระบุและกำหนดการเดินทางบนตั๋วโดยสาร หากท่านเปลี่ยนแผนการเดินทางหรือวันที่เดินทางหรือด้านอื่นใดของการเดินทางของท่าน อาจทำให้ค่าโดยสารที่ต้องชำระเปลี่ยนไปได้ ดูเพิ่มเติมในข้อ 3.3.2 ถึง 3.3.4 ด้านบน
4.2 ภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าระวางพิเศษต่างๆ
ท่านต้องชำระภาษี ค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เกี่ยวข้องที่กำหนดโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานอื่นๆ หรือโดยผู้ให้บริการสนามบิน เมื่อท่านซื้อตั๋วโดยสารท่านจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการต่างๆ ที่ไม่รวมอยู่ในค่าโดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะแสดงแยกต่างหากบนตั๋วโดยสาร ภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการที่เรียกเก็บจากการเดินทางทางอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสามารถเรียกเก็บได้หลังจากวันที่ออกตั๋วโดยสาร หากมีการขึ้นภาษี ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการที่แสดงบนตั๋วโดยสาร ท่านจะต้องชำระเงินส่วนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ในทำนองเดียวกัน หากมีการเรียกเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการใหม่แม้ว่าจะมีการออกตั๋วโดยสารแล้วก็ตาม ท่านจะต้องชำระเงินดังกล่าว ในทำนองเดียวกัน ในกรณีที่ภาษี ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการใดๆ ที่ท่านได้ชำระให้กับสายการบิน ณ เวลาที่ออกตั๋วโดยสารถูกยกเลิกหรือลดลงจนท่านไม่ต้องชำระอีกต่อไป หรือต้องชำระในจำนวนที่น้อยลง ท่านจะมีสิทธิ์เรียกร้องคืนเงิน แม้ว่าราคาของตั๋วโดยสารจะไม่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ออกและชำระเงินแล้ว แต่สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าระวางพิเศษเพื่อสะท้อนถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์พิเศษต่างๆ
4.3 สกุลเงิน
ต้องชำระค่าโดยสาร ภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการต่างๆ ในสกุลเงินของประเทศที่ออกตั๋วโดยสาร เว้นแต่สายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายจะระบุสกุลเงินอื่น ณ หรือก่อนเวลาที่ชำระเงิน (เช่น เนื่องจากสกุลเงินท้องถิ่นไม่สามารถแปลงเป็นสกุลเงินอื่นได้) สายการบินอาจยอมรับการชำระเงินในสกุลเงินอื่นตามดุลยพินิจของสายการบิน
ข้อ 5 การสำรองที่นั่ง
5.1 ข้อกำหนดของการสำรองที่นั่ง
5.1.1 สายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบินจะบันทึกการสำรองที่นั่งของท่าน เมื่อมีการร้องขอสายการบินจะให้การยืนยันการสำรองที่นั่งของท่านเป็นลายลักษณ์อักษร
5.1.2 ค่าโดยสารบางอย่างมีเงื่อนไขที่จำกัดหรือยกเว้นสิทธิ์ของท่านในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการสำรองที่นั่ง
5.2 กำหนดเวลาการออกตั๋วโดยสาร
สายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบินจะบันทึกการสำรองที่นั่งของท่าน เมื่อมีการร้องขอสายการบินจะให้การยืนยันการสำรองที่นั่งของท่านเป็นลายลักษณ์อักษร
5.3 ประกาศการประมวลผลอย่างยุติธรรม
5.4 สายการบินเคารพความเป็นส่วนตัวของท่านและมุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวของสายการบินจะแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของท่านและวิธีที่กฎหมายคุ้มครองท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่สายการบินรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวของสายการบินซึ่งอยู่บนเว็บไซต์ของสายการบินที่ www.srilankan.com/en_uk/corporate/privacy-policy และสายการบินแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายเพื่อให้ท่านเข้าใจสิทธิ์ของท่านและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สายการบินใช้ . การสำรองหมายเลขที่นั่ง
สายการบินจะพยายามดำเนินการตามคำร้องขอสำรองที่นั่งล่วงหน้า อย่างไรก็ตามสายการบินไม่สามารถรับประกันที่นั่งใดๆ ได้ สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดหรือกำหนดที่นั่งใหม่ได้ตลอดเวลา แม้หลังจากขึ้นเครื่องบินแล้วก็ตาม ซึ่งอาจจำเป็นเนื่องจากมีเหตุผลด้านการปฏิบัติงาน ความปลอดภัย หรือการรักษาความปลอดภัย
5.5 การยืนยันการสำรองที่นั่งอีกครั้ง
5.5.1 การสำรองที่นั่งเที่ยวต่อไปหรือขากลับอาจต้องยืนยันการสำรองที่นั่งอีกครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด สายการบินจะแจ้งให้ท่านทราบว่าท่านต้องยืนยันอีกครั้งเมื่อใดและควรดำเนินการที่ไหน หากจำเป็นต้องยืนยันแต่ท่านไม่สามารถยืนยันได้ สายการบินอาจยกเลิกการสำรองที่นั่งเที่ยวต่อไปหรือขากลับของท่าน อย่างไรก็ตามหากท่านแจ้งให้สายการบินทราบว่าท่านยังคงต้องการเดินทาง และมีที่นั่งว่างบนเที่ยวบิน สายการบินจะคืนสถานะการสำรองที่นั่งของท่านและขนส่งท่านไปยังจุดหมายปลายทาง หากไม่มีที่นั่งบนเที่ยวบิน สายการบินจะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อขนส่งท่านไปยังจุดหมายปลายทางถัดไปหรือจุดหมายปลายทางสุดท้าย
5.5.2 ท่านควรตรวจสอบข้อกำหนดในการยืนยันอีกครั้งของผู้ให้บริการรายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของท่านกับผู้ให้บริการเหล่านั้น ในกรณีที่จำเป็น ท่านต้องยืนยันอีกครั้งกับผู้ให้บริการขนส่งที่มีรหัสปรากฏบนตั๋วโดยสารสำหรับเที่ยวบินดังกล่าว
5.6 การยกเลิกการสำรองที่นั่งเที่ยวต่อไป
โปรดทราบว่าหากท่านไม่เดินทางไปที่สนามบินสำหรับเที่ยวบินใดๆ โดยไม่แจ้งสายการบินล่วงหน้า สายการบินอาจยกเลิกการสำรองที่นั่งขากลับหรือเที่ยวต่อไป อย่างไรก็ตาม หากท่านแจ้งให้สายการบินทราบล่วงหน้า สายการบินจะไม่ยกเลิกการสำรองเที่ยวบินเที่ยวต่อไปของท่านเท่าที่สามารถทำได้ในทางเทคนิค
ข้อ 6 เช็คอินและขึ้นเครื่อง
6.1 กำหนดเวลาเช็คอินจะแตกต่างกันไปในสนามบินทุกแห่ง และสายการบินขอแนะนำให้ท่านแจ้งตัวเองเกี่ยวกับกำหนดเวลาเช็คอินเหล่านี้และดำเนินการตามกำหนด การเดินทางของท่านจะราบรื่นขึ้นหากท่านเผื่อเวลาไว้เพียงพอในการปฏิบัติตามกำหนดเวลาเช็คอิน สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการสำรองที่นั่งของท่านหากท่านไม่ปฏิบัติตามกำหนดเวลาเช็คอินที่ระบุไว้ กำหนดเวลาในการเช็คอินสำหรับเที่ยวบินของสายการบินสามารถดูได้จากตารางเวลาของสายการบิน หรือท่านสามารถขอได้จากสายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบิน โดยทั่วไปเคาน์เตอร์ของสายการบินทั่วโลกเปิดให้บริการ 3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และท่านควรไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินอย่างน้อยตามเวลาดังกล่าว (กล่าวคือ 3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง) เว้นแต่สายการบินจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เคาน์เตอร์เช็คอินทั้งหมดของสายการบินจะปิด 01 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
6.2 เที่ยวบินจะรอหากท่านไม่ไปที่ประตูขึ้นเครื่องอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเวลาออกเดินทาง
6.3 สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อนี้
6.4 โปรดดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของสายการบินสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิ์ของท่านและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราใช้
ข้อ 7 การปฏิเสธและการจำกัดการขนส่ง
7.1 สิทธิในการปฏิเสธการขนส่ง
ในการใช้ดุลยพินิจของสายการบินตามสมควร สายการบินอาจปฏิเสธที่จะขนส่งท่านหรือสัมภาระของท่านหากสายการบินได้แจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสายการบินจะไม่ขนส่งท่านในเที่ยวบินของสายการบินเมื่อใดก็ตามหลังจากวันที่แจ้งให้ทราบดังกล่าว ในกรณีนี้ ท่านจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน สายการบินยังอาจปฏิเสธที่จะขนส่งท่านหรือสัมภาระของท่านหากเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์ หรือสายการบินเชื่อตามสมควรว่าอาจเกิดขึ้น:
7.1.1 การดำเนินการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งของรัฐบาลที่บังคับใช้
7.1.2 การขนส่งท่านหรือสัมภาระของท่านอาจเป็นอันตรายต่อหรือส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย สุขภาพ หรือส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารหรือลูกเรือคนอื่นๆ
7.1.3 สภาพจิตใจหรือร่างกายของท่าน รวมถึงความเสื่อมสภาพจากแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสี่ยงต่อตัวท่านเอง ต่อผู้โดยสาร ต่อลูกเรือ หรือต่อทรัพย์สิน
7.1.4 เที่ยวบินเต็มแล้วและท่านไม่ได้สำรองที่นั่งสำหรับตัวท่านเองบนเที่ยวบิน
7.1.5 ท่านปฏิเสธที่จะยอมให้ทำการตรวจสอบความปลอดภัย
7.1.6 ท่านยังไม่ได้ชำระค่าโดยสาร ภาษี ค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
7.1.7 ท่านไม่มีเอกสารการเดินทางที่ถูกต้อง ท่านอาจพยายามเข้าประเทศที่ท่านอาจแวะพักเครื่องระหว่างทางหรือที่ท่านไม่มีเอกสารการเดินทางที่ถูกต้อง ท่านทำลายเอกสารการเดินทางของท่านระหว่างเที่ยวบิน หรือปฏิเสธที่จะยอมแสดงเอกสารการเดินทางของท่านต่อลูกเรือเมื่อได้รับการร้องขอ
7.1.8 ท่านแสดงตั๋วโดยสารที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ซื้อจากหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่สายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบิน หรือมีรายงานว่าสูญหายหรือถูกขโมย เป็นของปลอม หรือท่านไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าท่านคือบุคคลที่มีชื่ออยู่ในตั๋วโดยสาร
7.1.9 ท่านไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในข้อ 3.3 ข้างต้นเกี่ยวกับลำดับคูปองและการใช้งาน หรือท่านแสดงตั๋วโดยสารที่ออกหรือถูกเปลี่ยนแปลงในลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่ไม่ได้ดำเนินการโดยสายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบิน หรือตั๋วโดยสารถูกทำลาย
7.1.10 ท่านไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของสายการบินเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือการรักษาความปลอดภัย
7.1.11 ท่านเคยกระทำการหรือละเว้นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่อ้างถึงในข้อ 7.1.5 ถึง 7.1.10 ข้างต้น และสายการบินมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าท่านอาจทำเช่นนั้นได้อีกครั้ง
7.1.12 ในกรณีที่การปฏิเสธดังกล่าวมีความจำเป็นตามความเชื่อที่สมเหตุสมผลของสายการบินเพื่อปฏิบัติตามข้อจำกัดการเดินทาง การปิดพรมแดน การห้ามขนส่งเที่ยวบิน และหรือข้อจำกัดอื่นๆ ที่กำหนดโดยรัฐใดๆ ที่เป็นต้นทางของเที่ยวบินของสายการบิน บินผ่านและหรือบินเข้าไป
7.2 ความช่วยเหลือพิเศษ
7.2.1 การยอมรับการขนส่งเด็กที่เดินทางโดยลำพัง ผู้ทุพพลภาพ สตรีมีครรภ์ บุคคลที่เจ็บป่วย หรือความต้องการความช่วยเหลือพิเศษอื่นๆ จะต้องมีข้อตกลงล่วงหน้ากับสายการบิน ผู้โดยสารที่มีความทุพพลภาพที่ได้แจ้งความต้องการพิเศษใดๆ แก่สายการบิน ณ เวลาที่ออกตั๋วโดยสารและได้รับการยอมรับจากสายการบินแล้วจะไม่ถูกปฏิเสธการขนส่งในภายหลังฐานที่มีความพิการหรือความต้องการพิเศษดังกล่าว เว้นแต่ความต้องการความช่วยเหลือพิเศษจะเปลี่ยนแปลงไปในทางลบหลังจากสายการบินยอมรับแล้ว
7.2.2 หากท่านกำลังบินไปและกลับจากสหรัฐอเมริกา อาจมีการใช้กฎท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎที่ใช้บังคับสำหรับการเดินทางไปและกลับจากสหรัฐอเมริกาได้
7.2.3 ท่านสามารถขอความช่วยเหลือพิเศษสำหรับเก้าอี้รถเข็นได้ที่สนามบินโคลัมโบ โดยมีค่าธรรมเนียม LKR 1,500.00 ซึ่งต้องชำระเงินได้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์เท่านั้น โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของสายการบินศรีลังกา
7.3 ความพร้อมด้านสุขภาพในการเดินทางทางอากาศ
7.3.1 หากท่านได้รับคำแนะนำว่าท่านมีความพร้อมด้านสุขภาพในการเดินทางทาอากาศโดยมีการปฏิบัติตามข้อควรระวังบางประการแล้ว ท่านมีความรับผิดชอบที่จะต้องแน่ใจว่าได้ท่านได้ปฏิบัติตามข้อควรระวังดังกล่าวทั้งหมดแล้ว และสามารถแสดงหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับความพร้อมด้านสุขภาพในการเดินทางทาอากาศของท่านได้ตามที่กำหนดตามเงื่อนไขการขนส่ง
7.3.2 หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความพร้อมด้านสุขภาพในการเดินทางทาอากาศของท่าน เราอาจปฏิเสธที่จะให้การขนส่งกับท่าน เว้นแต่ท่านจะแสดง:
(a) รายงานทางการแพทย์ต่อสายการบินล่วงหน้าไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนการเดินทางโดยแพทย์ที่มีท่านสมบัติเหมาะสมที่ระบุวันที่ไม่เกิน 10 วันก่อนวันที่เที่ยวบินของท่านซึ่งยืนยันความพร้อมด้านสุขภาพในการเดินทางทาอากาศของท่านในทุกเที่ยวบินที่ท่านตั้งใจจะเดินทาง หรือ
(b) แบบฟอร์มข้อมูลทางการแพทย์ (MEDIF) ที่กรอกครบถ้วนแล้วต่อสายการบินภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ซึ่งสายการบินได้ยืนยันแล้วว่าสายการบินสามารถให้บริการขนส่งกับท่านได้ หรือ
(c) บัตรสุขภาพสำหรับผู้เดินทางเป็นประจำ (FREMEC) ต่อสายการบินล่วงหน้าไม่เกิน 96 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ซึ่งสายการบินได้ยืนยันว่าสายการบินสามารถให้บริการขนส่งให้กับท่านได้
7.3.3 ต้องได้รับอนุญาตให้เดินทางทางอากาศจากแผนกการแพทย์ของสายการบินอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนเที่ยวบินของท่าน (หรือระยะเวลาที่สั้นกว่านั้นตามที่สายการบินอาจใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินใจ) หากปรากฏต่อสายการบินว่าท่านอาจเป็นโรคที่ตรงตามเกณฑ์ใดๆ ต่อไปนี้ ;
(a) ซึ่งเชื่อว่าเป็นโรคติดต่อหรือติดต่อได้หรือ
(b) ซึ่งอาจก่อให้เกิดหรือนำไปสู่พฤติกรรมหรือสภาพร่างกายที่ผิดปกติซึ่งอาจส่งผลต่อสวัสดิภาพและความสะดวกสบายของผู้โดยสารหรือลูกเรือคนอื่นๆ หรือ
(c) ซึ่งถือเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของการบิน หรือ
(d) ซึ่งอาจทำให้เที่ยวบินถูกเปลี่ยนเส้นทางหรือลงจอดนอกกำหนดเวลา หรือ
(e) ซึ่งอาจต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์และหรืออุปกรณ์พิเศษเพื่อรักษาสุขภาพระหว่างการบิน หรือ
(f) ซึ่งอาจกำเริบระหว่างการบิน
7.3.4 หากท่านกำลังบินไปและกลับจากสหรัฐอเมริกา อาจมีการใช้กฎท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎที่ใช้บังคับสำหรับการเดินทางไปและกลับจากสหรัฐอเมริกาได้
ข้อ 8 สัมภาระ
8.1 สัมภาระไม่มีค่าธรรมเนียม
ท่านสามารถนำสัมภาระบางส่วนขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดของสายการบินซึ่งมีให้บริการตามที่ท่านร้องขอกับสายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบิน
8.2 สัมภาระส่วนเกิน
ท่านจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการขนส่งสัมภาระที่เกินกว่าน้ำหนักสัมภาระที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ท่านสามารถขออัตราค่าธรรมเนียมเหล่านี้ได้จากสายการบิน
8.3 สิ่งของที่ไม่สามารถรับเป็นสัมภาระได้
8.3.1 สัมภาระของท่านต้องไม่มีสิ่งต่อไปนี้:
(a) สิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบินหรือบุคคลหรือทรัพย์สินบนเครื่องบิน เช่น สิ่งของที่ระบุไว้ในคำแนะนำทางเทคนิคขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สำหรับการขนส่งสินค้าอันตรายทางอากาศอย่างปลอดภัย และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) กฎระเบียบว่าด้วยสินค้าอันตราย และในข้อบังคับของสายการบิน (ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสายการบิน)
(b) สิ่งของที่กฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งของรัฐใดๆ ห้ามมิให้ขนส่งทางอากาศจากหรือไปยัง
(c) สิ่งของที่สายการบินพิจารณาตามสมควรแล้วว่าไม่เหมาะสมสำหรับการขนส่ง เนื่องจากสิ่งของเหล่านั้นเป็นอันตราย ไม่ปลอดภัย หรือเนื่องมาจากน้ำหนัก ขนาด รูปร่าง หรือลักษณะของสิ่งของนั้น หรือสิ่งของที่เปราะบางหรือเน่าเสียง่ายโดยคำนึงถึงประเภทของเครื่องบินที่ใช้ เป็นต้น ท่านสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่ไม่เหมาะสมสำหรับการขนส่งได้
8.3.2 ห้ามขนส่งอาวุธปืนและกระสุนปืนนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการล่าสัตว์และการกีฬาเป็นสัมภาระ อาวุธปืนและกระสุนสำหรับวัตถุประสงค์ในการล่าสัตว์และการกีฬาอาจถือเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้ อาวุธปืนจะต้องไม่บรรจุกระสุน มีตัวล็อคนิรภัย และบรรจุในบรรจุภัณฑ์อย่างเหมาะสม การขนส่งกระสุนอยู่ภายใต้ข้อบังคับของ ICAO และ IATA ตามที่ระบุไว้ในข้อ 8.3.1(ก)
8.3.3 ต่อไปนี้คือสิ่งของที่ไม่ถือเป็นสัมภาระตามที่กำหนดไว้ในข้อ 8.1:
(a) สิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน หรือบุคคล หรือทรัพย์สินบนอากาศยาน
(b) สิ่งของที่กฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งของรัฐใดๆ ห้ามมิให้ขนส่งทางอากาศจาก ไปยัง หรือข้าม
(c) สิ่งของที่ผู้ขนส่งเห็นว่าไม่เหมาะสมสำหรับการขนส่งด้วยเหตุผลด้านน้ำหนัก ขนาด หรือลักษณะ เช่น สิ่งของ/วัตถุมีคม และ/หรือวัตถุโลหะผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้บรรจุอย่างเหมาะสมซึ่งมีน้ำหนักเกิน 5 กิโลกรัม
(d) สัตว์ที่มีชีวิต ยกเว้นสุนัข แมว นกที่เป็นสัตว์เลี้ยง และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สามารถขนส่งได้ภายใต้กฎระเบียบของผู้ให้บริการขนส่ง
(e) อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการล่าสัตว์และการกีฬา
(f) สิ่งของที่แตกหักง่ายหรือเน่าเสียง่าย เงิน อัญมณี โลหะมีค่า เครื่องเงิน ตราสารเปลี่ยนมือได้ หลักทรัพย์หรือของมีค่าอื่นๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทาง และเอกสารระบุตัวตนหรือตัวอย่างอื่น ๆ
(g) อาวุธ เช่น อาวุธปืนโบราณ ดาบ มีด และสิ่งของที่คล้ายกันอาจโหลดเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสายการบิน แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นไปในห้องโดยสารของเครื่องบิน
8.3.4 ท่านต้องไม่ใส่เงิน เครื่องประดับ โลหะมีค่า คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล ตราสารเปลี่ยนมือได้ หลักทรัพย์หรือของมีค่าอื่นๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทาง และเอกสารระบุตัวตนหรือตัวอย่างอื่นๆ ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
8.3.5 หากแม้ว่าจะถูกห้าม แต่มีสิ่งของใดๆ ที่อ้างถึงในข้อ 8.3.1 8.3.2 และ 8.3.4 ในสัมภาระของท่าน สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายของสิ่งของดังกล่าว
8.4 สิทธิในการปฏิเสธการขนส่ง
8.4.1 ภายใต้ข้อ 8.3.2 และ 8.3.3 สายการบินจะปฏิเสธที่จะขนส่งสิ่งของที่อธิบายไว้ในข้อ 8.3 เป็นสัมภาระ และสายการบินอาจปฏิเสธการขนส่งสิ่งของดังกล่าวเพิ่มเติมเมื่อพบสิ่งของเหล่านั้น
8.4.2 สายการบินอาจปฏิเสธที่จะบรรทุกสิ่งของใดๆ ที่เราพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลว่าไม่เหมาะสมสำหรับการขนส่งเป็นสัมภาระเนื่องจากขนาด รูปร่าง น้ำหนัก สิ่งที่บรรจุอยู่ ลักษณะ หรือเพื่อความปลอดภัยหรือเหตุผลในการปฏิบัติงาน หรือความสะดวกสบายของผู้โดยสารคนอื่นๆ ท่านสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่ไม่สามารถยอมรับได้
8.4.3 สายการบินอาจปฏิเสธที่จะรับสัมภาระสำหรับการขนส่ง เว้นแต่สายการบินจะมีความเห็นที่สมเหตุสมผลว่ามีการบรรจุอย่างเหมาะสมและปลอดภัยในภาชนะที่เหมาะสม ท่านสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับการบรรจุและภาชนะบรรจุที่สายการบินไม่สามารถยอมรับได้
8.5 สิทธิในการตรวจค้น
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย สายการบินอาจขอให้ท่านอนุญาตให้ทำการค้นหาและสแกนตัวท่าน และทำการค้นหา สแกน หรือเอ็กซเรย์สัมภาระของท่าน หากท่านไม่สะดวก สัมภาระของท่านอาจถูกตรวจค้นโดยที่ท่านไม่อยู่เพื่อจุดประสงค์ในการพิจารณาว่าท่านครอบครองหรือว่าสัมภาระของท่านมีสิ่งของใดๆ ที่อธิบายไว้ในข้อ 8.3.1 หรืออาวุธปืน กระสุน หรืออาวุธใดๆ ที่ไม่ได้นำมาแสดงต่อสายการบินตามข้อ 8.3.2 หรือ 8.3.3 หากท่านไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอดังกล่าว สายการบินอาจปฏิเสธที่จะขนส่งท่านและสัมภาระของท่าน ในกรณีที่การค้นหาหรือการสแกนทำให้เกิดความเสียหายแก่ท่าน หรือการเอ็กซเรย์หรือการสแกนทำให้เกิดความเสียหายต่อสัมภาระของท่าน สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าว เว้นแต่จะเกิดจากความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของสายการบิน
8.6 สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
8.6.1 เมื่อท่านจัดส่งสัมภาระที่ท่านต้องการโหลดให้สายการบินแล้ว สายการบินจะดูแลและออกป้ายสัมภาระสำหรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องแต่ละชิ้นของท่าน
8.6.2 สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องต้องมีชื่อของท่านหรือเอกสารระบุตัวตนอื่นๆ ติดอยู่
8.6.3 สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องจะถูกขนส่งบนเครื่องบินลำเดียวกันกับท่านทุกครั้งที่เป็นไปได้ เว้นแต่สายการบินจะตัดสินใจด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย หรือการปฏิบัติงานว่าจะขนส่งสัมภาระในเที่ยวบินอื่น หากสัมภาระโหลดใต้ท้องเคืร่องของท่านถูกขนส่งในเที่ยวบินถัดไป สายการบินจะพยายามจัดส่งสัมภาระดังกล่าวให้กับท่าน เว้นแต่กฎหมายที่บังคับใช้กำหนดให้ท่านต้องแสดงตัวเพื่อดำเนินพิธีการศุลกากร
8.7 สัมภาระนำขึ้นเครื่อง
8.7.1 สายการบินอาจระบุขนาดและ/หรือน้ำหนักสูงสุดสำหรับสัมภาระที่ท่านถือขึ้นเครื่อง หากสายการบินไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว สัมภาระที่ท่านถือขึ้นเครื่องจะต้องวางไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าท่านหรือในช่องเก็บของแบบปิดในห้องโดยสารของเครื่องบิน หากสัมภาระของท่านไม่สามารถจัดเก็บในลักษณะนี้ได้ หรือมีน้ำหนักมากเกินไป หรือถือว่าไม่ปลอดภัยไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะต้องขนส่งสัมภาระดังกล่าวเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องตามข้อ 8.2 และ 8.3
8.7.2 สิ่งของที่ไม่เหมาะสำหรับการขนส่งในห้องเก็บสัมภาระ (เช่น เครื่องดนตรีที่บอบบาง) และสิ่งของที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในข้อ 8.7.1 ข้างต้นจะสามารถนำขึ้นไปในห้องห้องโดยสารได้หากท่านได้แจ้งให้สายการบินทราบล่วงหน้าและได้รับอนุญาตจากสายการบินแล้วเท่านั้น ท่านอาจต้องชำระค่าใช้จ่ายต่างหากสำหรับบริการนี้
8.7.3 สัมภาระถือขึ้นเครื่องโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมที่อนุญาตสำหรับผู้โดยสาร: ชั้นธุรกิจ - สัมภาระถือขึ้นเครื่อง 2 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าหรือกระเป๋าเดินทางที่มีขนาดไม่เกิน 18"x14"x8" (46x36x20 ซม.) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. ต่อชิ้นหรือสองชิ้นรวมกัน ชั้นประหยัด - กระเป๋า 1 ใบที่มีขนาดไม่เกิน 18"x14"x8" (46x36x20 ซม.) และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กก. นอกเหนือจากสัมภาระถือขึ้นเครื่องที่กล่าวข้างต้นแล้ว อนุญาตให้นำสิ่งของต่อไปนี้ขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
- แลปท้อปหนึ่งเครื่อง
- กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ หรือพ็อกเก็ตบุ๊คของสุภาพสตรีหนึ่งใบ
- เสื้อคลุม ผ้าคลุมหรือผ้าห่มหนึ่งผืนหนึ่งผืน
- ร่มหรือไม้เท้า 1 อัน
- กล้องขนาดเล็กหนึ่งเครื่องและ/หรือกล้องส่องทางไกลหนึ่งคู่
- กระเป๋าในห้องโดยสารหนึ่งใบขนาด 22”x15”x8” (55x38x20 ซม.) บรรจุอาหารสำหรับทารก สำหรับการบริโภคในเที่ยวบินที่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำสำหรับทารกและของใช้แล้วทิ้ง เช่น ผ้าอ้อม น้ำหนักไม่เกิน 11 ปอนด์ (5 กก.)
- ตะกร้าใส่ของทารกหรือรถเข็นเด็ก/รถเข็นเด็กแบบพับได้ทั้งหมด (สามารถนำขึ้นเครื่องได้เฉพาะในกรณีที่มีพื้นที่ว่างในห้องโดยสารเท่านั้น หากไม่มีพื้นที่ว่าง ให้ถือโหลดเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง)
ข้อจำกัดเกี่ยวกับสัมภาระถือขึ้นเครื่องมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของผู้โดยสารและลูกเรือ ด้วยเหตุนี้ สัมภาระถือขึ้นเครื่องที่มีขนาดไม่พอดีกับเครื่องชั่งน้ำหนักสัมภาระ ณ ประตูขึ้นเครื่องจะถูกนำไปโหลดใต้ท้องเครื่อง
8.8 นโยบายสัมภาระกรณีเป็นเที่ยวบินรหัสร่วม
เที่ยวบินรหัสร่วมคือเที่ยวบินที่ใช้ตั๋วโดยสารเดียวกันกับเที่ยวบินของสายการบินศรีลังกา แต่ดำเนินการโดยสายการบินอื่นและมีหมายเลขเที่ยวบิน 'UL' สายการบินเหล่านี้อาจมีน้ำหนักสัมภาระที่อนุญาตแตกต่างจากสายการบินศรีลังกา โปรดดูนโยบายสัมภาระของสายการบินที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหนักที่อนุญาตหรือค่าบริการสำหรับสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ด้านล่างนี้คือพันธมิตรเที่ยวบินรหัสร่วมของสายการบิน
8.9 การรับและจัดส่งสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
8.9.1 ภายใต้ข้อ 8.6.3 ท่านจะต้องรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องของท่านทันทีที่พร้อมรับ ณ จุดหมายปลายทางหรือจุดแวะพักเครื่องของท่าน หากท่านไม่ไปรับสัมภาระภายในเวลาอันสมควร สายการบินอาจเรียกเก็บค่าบริการการจัดเก็บจากท่าน หากไม่มีการรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องของท่านภายในสาม (3) เดือนนับจากเวลาที่สัมภาระนั้นพร้อมรับ สายการบินอาจกำจัดสัมภาระนั้นโดยไม่ต้องรับผิดต่อท่าน
8.9.2 เฉพาะผู้ถือป้ายโหลดสัมภาระและป้ายสัมภาระเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ในการจัดส่งสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้
8.9.3 หากบุคคลที่อ้างสิทธิ์ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องไม่สามารถแสดงป้ายโหลดสัมภาระและมี่ป้ายสัมภาระ เราจะจัดส่งสัมภาระดังกล่าวให้กับบุคคลดังกล่าวเฉพาะภายใต้เงื่อนไขที่บุคคลนั้นแสดงสิทธิ์ของตนในสัมภาระและลงนามในแบบฟอร์มสละสิทธิ์การเรียกร้องของสายการบิน
8.10 สัตว์
หากเราตกลงที่จะขนส่งสัตว์ของท่าน สายการบินจะขนส่งสัตว์ของท่านภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้:
8.10.1 ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัตว์ เช่น สุนัข แมว นก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ถูกบรรจุในลังอย่างเหมาะสม และมีใบรับรองสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง ใบอนุญาตเข้า และเอกสารอื่นๆ ที่กำหนดโดยประเทศที่นำเข้าหรือผ่านแดน กรณีไม่มีเอกสารเหล่านี้สายการบินจะไม่รับขนส่ง การขนส่งดังกล่าวอาจอยู่ภายใต้เงื่อนไขเพิ่มเติมที่สายการบินระบุไว้ซึ่งท่านสามารถขอข้อมูลดังกล่าวได้
8.10.2 หากได้รับการยอมรับว่าเป็นสัมภาระ สัตว์พร้อมภาชนะและอาหาร จะไม่รวมอยู่ในน้ำหนักสัมภาระที่อนุญาตโดยไม่มีค่าบริการ แต่จะถือเป็นสัมภาระส่วนเกิน ซึ่งท่านจะต้องจ่ายตามอัตราที่เกี่ยวข้อง
8.10.3 สุนัขนำทางที่ร่วมเดินทางกับผู้โดยสารที่มีความทุพพลภาพจะได้รับการขนส่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากน้ำหนักสัมภาระที่ไม่มีค่าบริการปกติ โดยจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สายการบินระบุไว้ ซึ่งท่านสามารถขอข้อมูลดังกล่าวได้
8.10.4 ในกรณีที่การขนส่งไม่อยู่ภายใต้กฎความรับผิดของอนุสัญญา สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อการบาดเจ็บ การสูญหาย ความเจ็บป่วย หรือการเสียชีวิตของสัตว์ที่สายการบินตกลงที่จะขนส่ง เว้นแต่สายการบินจะเป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อ
8.10.5 สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อสัตว์ใดๆ ที่ไม่มีเอกสารนำออก เอกสารนำเข้า เอกสารสุขภาพ และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับการเข้าหรือผ่านประเทศ รัฐ หรือดินแดนใดๆ ของสัตว์ดังกล่าว และบุคคลที่นำสัตว์ดังกล่าวมาจะต้องคืนเงินให้กับสายการบินสำหรับค่าปรับ ต้นทุน ความสูญเสีย หรือหนี้สินใดๆ ที่สายการบินต้องชำระอันเป็นผลเนื่องมาจากกรณีดังกล่าว
8.10.6 หากท่านกำลังบินไปและกลับจากสหรัฐอเมริกา อาจมีการใช้กฎท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ท่านสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎที่ใช้บังคับสำหรับการเดินทางไปและกลับจากสหรัฐอเมริกาได้
เนื่องจากเครื่องบินของสายการบินศรีลังกาทุกลำไม่สามารถบรรทุกสัตว์ที่มีชีวิตได้ โปรดตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายตั๋วโดยสารของท่าน ณ เวลาสำรองที่นั่งของท่าน
ข้อ 9 กำหนดการ ความล่าช้า การยกเลิกเที่ยวบิน
9.1 กำหนดการ
9.1.1 เวลาเที่ยวบินที่แสดงในตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวันที่ประกาศและวันที่ท่านเดินทางจริง สายการบินไม่รับประกันเวลาเที่ยวบินกับท่าน และเวลาเที่ยวบินไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างท่านกับสายการบิน
9.1.2 ก่อนที่สายการบินจะยอมรับการสำรองที่นั่งของท่าน สายการบินจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกำหนดเวลาเที่ยวบินที่มีผลบังคับ ณ เวลานั้นซึ่งจะปรากฏบนตั๋วโดยสารของท่าน เป็นไปได้ที่สายการบินอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเวลาเที่ยวบินที่กำหนดภายหลังการออกตั๋วโดยสารของท่าน หากท่านให้ข้อมูลสำหรับติดต่อกับสายการบิน สายการบินจะพยายามแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หากหลังจากที่ท่านซื้อตั๋วโดยสารแล้วสายการบินทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับเวลาเที่ยวบินที่กำหนด ซึ่งท่านไม่สามารถยอมรับได้ และสายการบินไม่สามารถจองเที่ยวบินอื่นที่ท่านยอมรับได้ ท่านจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนตามข้อ 10.2
9.2 การยกเลิก การเปลี่ยนเส้นทาง ความล่าช้า ฯลฯ
9.2.1 สายการบินจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการให้บริการขนส่งท่านและสัมภาระของท่าน ในการใช้มาตรการเหล่านี้และเพื่อป้องกันการยกเลิกเที่ยวบิน ในสถานการณ์พิเศษ สายการบินอาจจัดเตรียมเที่ยวบินสำหรับดำเนินการในนามของสายการบินโดยสายการบินอื่นและ/หรือเครื่องบินลำอื่น
9.2.2 เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในอนุสัญญา หากสายการบินยกเลิกเที่ยวบิน ไม่สามารถดำเนินการเที่ยวบินอย่างสมเหตุสมผลตามกำหนดเวลา ไม่จอดที่จุดหมายปลายทางหรือจุดแวะพักเครื่องของท่าน หรือทำให้ท่านพลาดเที่ยวบินต่อเครื่องที่ท่านได้สำรองที่นั่งไว้ สายการบินจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ท่านต้องการดังนี้:
(a) ให้บริการขนส่งท่านในเที่ยวบินถัดไปตามกำหนดเวลาของสายการบินโดยเร็วที่สุดที่มีที่นั่งว่างโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และหากจำเป็น สายการบินจะขยายอายุตั๋วโดยสารของท่าน หรือ
(b) ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม สายการบินจะเปลี่ยนเส้นทางของท่านไปยังจุดหมายปลายทางที่แสดงบนตั๋วโดยสารของท่านโดยใช้บริการของสายการบินเองหรือของผู้ให้บริการรายอื่น หรือโดยวิธีการและชั้นบริการขนส่งอื่นที่ตกลงร่วมกันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากค่าโดยสารและค่าบริการสำหรับเส้นทางที่แก้ไขต่ำกว่าที่ท่านชำระ สายการบินจะคืนเงินส่วนต่างให้ท่าน หรือ
(c) คืนเงินตามข้อ 10.2 หรือ
(d) ภายใต้เงื่อนไขที่ท่านมีสิทธิ์ข้างต้น สายการบินจะชดเชยตามกฎหมายที่บังคับใช้และ/หรือนโยบายค่าตอบแทนสำหรับกรณีถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องของสายการบิน (ท่านสามารถขอมีสำเนาข้อมูลดังกล่าวได้ ถ้ามี)
9.2.3 เมื่อเกิดเรื่องใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 9.2.2 เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในอนุสัญญา ตัวเลือกที่ระบุไว้ในข้อ 9.2.2(ก) ถึง 9.2.2(ง) ถือเป็นการเยียวยาเดียวสำหรับท่าน และสายการบินจะไม่มีความรับผิดต่อท่านอีกต่อไป
9.3 ค่าชดเชยที่ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง
หากสายการบินไม่สามารถจัดหาที่นั่งที่สำรองไว้ก่อนหน้านี้ได้ สายการบินจะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตามนโยบายการชดเชยการปฏิเสธการขึ้นเครื่องของสายการบินในขอบเขตที่บังคับใช้ ท่านสามารถขอรับสำเนานโยบายค่าตอบแทนที่ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องได้
ข้อ 10 การคืนเงิน
10.1 สายการบินจะคืนเงินค่าตั๋วโดยสารหรือส่วนที่ไม่ได้ใช้ตามกฎค่าโดยสารหรือพิกัดอัตราค่าบริการที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้:
10.1.1 ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อนี้ สายการบินจะมีสิทธิ์คืนเงินให้กับบุคคลที่มีชื่ออยู่ในตั๋วโดยสารหรือบุคคลที่ชำระค่าตั๋วโดยสาร เมื่อแสดงหลักฐานการชำระเงินดังกล่าวอย่างถูกต้อง
10.1.2 หากตั๋วโดยสารชำระโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้โดยสารที่มีชื่ออยู่ในตั๋วโดยสาร และตั๋วโดยสารระบุว่ามีข้อจำกัดในการคืนเงิน สายการบินจะคืนเงินให้กับบุคคลที่ชำระค่าตั๋วโดยสารเท่านั้น หรือ ตามคำสั่งของบุคคลนั้น
10.1.3 ยกเว้นในกรณีที่ตั๋วโดยสารสูญหาย การคืนเงินจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการมอบตั๋วโดยสารและคูปองเที่ยวบินที่ยังไม่ได้ใช้ทั้งหมดให้กับสายการบินเท่านั้น
10.2 การคืนเงินโดยไม่สมัครใจ
10.2.1 หากสายการบินยกเลิกเที่ยวบิน ไม่ดำเนินการเที่ยวบินอย่างสมเหตุสมผลตามกำหนดเวลา ไม่จอดที่จุดหมายปลายทางหรือจุดแวะพักของท่าน ลดระดับชั้นโดยสารการเดินทางของท่าน หรือทำให้ท่านพลาดเที่ยวบินต่อเครื่องที่ท่านจองไว้ จำนวนเงินคืนจะเท่ากับ:
(a) หากยังไม่ได้ใช้ส่วนใดของตั๋วโดยสารเลย จำนวนเงินคืนจะเท่ากับค่าโดยสารที่ชำระ
(b) หากมีการใช้ตั๋วโดยสารบางส่วนแล้ว จำนวนเงินคืนต้องไม่น้อยกว่าส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารที่ชำระและค่าโดยสารที่ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างจุดที่ใช้ตั๋วโดยสาร
(c) หากชั้นโดยสารของท่านถูกลดระดับลง จำนวนเงินคืนของท่านจะเป็นส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารที่จ่ายสำหรับส่วนที่ลดระดับกับค่าโดยสารที่ใช้สำหรับชั้นโดยสารจริงของการเดินทางสำหรับส่วนนั้น
10.3 การคืนเงินโดยสมัครใจ
10.3.1 หากท่านมีสิทธิ์ขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารของท่านด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในข้อ 10.2 จำนวนเงินคืนจะเท่ากับ (ภายใต้ข้อ 3.1.3):
(a) หากยังไม่ได้ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของตั๋วโดยสารเลย จำนวนเงินคืนจะเท่ากับค่าโดยสารที่ชำระ หักค่าบริการที่สมเหตุสมผลหรือค่าธรรมเนียมการยกเลิก
(b) หากมีการใช้ตั๋วโดยสารบางส่วนแล้ว จำนวนเงินคืนจะเท่ากับส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารที่ชำระและค่าโดยสารที่ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างจุดที่ใช้ตั๋วโดยสาร หักค่าบริการที่สมเหตุสมผลหรือค่าธรรมเนียมการยกเลิก
10.4 การคืนเงินสำหรับตั๋วโดยสารที่สูญหาย
10.4.1 หากท่านทำตั๋วโดยสารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของตั๋วโดยสารหาย เมื่อแสดงหลักฐานการสูญหายอย่างครบถ้วนต่อสายการบินแล้ว และชำระค่าธรรมเนียมการจัดการตามสมควรแล้ว สายการบินจะคืนเงินให้โดยเร็วที่สุดหลังจากตั๋วโดยสารหมดอายุ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้:
(a) ตั๋วโดยสารที่สูญหายหรือบางส่วนของตั๋วโดยสารยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ ยังไม่ได้รับการคืนเงินหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนหน้านี้ (ยกเว้นในกรณีที่การใช้ การคืนเงิน หรือการเปลี่ยนโดยหรือต่อบุคคลที่สามเป็นผลมาจากความประมาทเลินเล่อของสายการบินเอง)
(b) บุคคลที่ดำเนินการคืนเงินให้สัญญาในรูปแบบที่สายการบินอาจกำหนดว่าจะเพื่อชำระคืนให้สายการบินตามจำนวนที่คืนในกรณีของการฉ้อโกง และ/หรือในขอบเขตที่ตั๋วโดยสารหรือบางส่วนที่สูญหายถูกใช้โดยบุคคลที่สาม (ยกเว้นในกรณีที่การฉ้อโกงหรือการใช้งานโดยบุคคลที่สามเป็นผลมาจากความประมาทเลินเล่อของสายการบินเอง)
(c) หากสายการบินหรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมายของสายการบินทำตั๋วโดยสารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของตั๋วโดยสารสูญหาย สายการบินจะต้องรับผิดชอบต่อการสูญหายดังกล่าว
10.5 สิทธิในการปฏิเสธการคืนเงิน
10.5.1 สายการบินจะไม่คืนเงินหากไม่มีการขอคืนเงินภายใน 1 ปีนับจากวันที่ออกตั๋วโดยสารเดิม
10.5.2 สายการบินอาจปฏิเสธการคืนเงินเมื่อมีการขอคืนหลังจากตั๋วโดยสารหมดอายุ
10.5.3 สายการบินอาจปฏิเสธการคืนเงินสำหรับตั๋วโดยสารที่นำมาแสดงต่อสายการบินหรือต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเป็นหลักฐานแสดงความตั้งใจที่จะเดินทางออกจากประเทศนั้น เว้นแต่ท่านจะพิสูจน์ต่อสายการบินได้ว่าท่านได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศนั้นหรือ ท่านจะเดินทางออกจากประเทศนั้นโดยผู้ให้บริการรายอื่นหรือวิธีการขนส่งอื่น
10.6 สกุลเงิน
เราขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินในลักษณะเดียวกันและสกุลเงินเดียวกับที่ใช้ในการชำระค่าตั๋วโดยสาร
10.7 ที่สามารถขอคืนค่าตั๋วโดยสารได้
การคืนเงินโดยสมัครใจจะดำเนินการโดยผู้ให้บริการขนส่งที่ออกตั๋วโดยสารเดิมเท่านั้น หรือโดยตัวแทนของผู้ให้บริการขนส่งหากได้รับอนุญาต
ข้อ 11 การปฏิบัติตนเมื่ออยู่บนเครื่องบิน
11.1 ทั่วไป
ตามความเห็นที่สมเหตุสมผลของสายการบิน หากท่านปฏิบัติตนบนเครื่องบินจนเป็นอันตรายต่อเครื่องบินหรือบุคคลหรือทรัพย์สินใดๆ บนเครื่องบิน หรือขัดขวางลูกเรือในการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ของลูกเรือ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยา หรือปฏิบัติตนในลักษณะที่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบาย ความไม่สะดวก ความเสียหาย หรือการบาดเจ็บต่อผู้โดยสารท่านอื่นหรือลูกเรือ เราอาจใช้มาตรการดังกล่าวตามที่เราเห็นว่าจำเป็นตามสมควรเพื่อป้องกันการกระทำดังกล่าวต่อไปรวมถึงการควบคุมตัว ท่านอาจถูกนำตัวออกจากเครื่องบินและปฏิเสธการขนส่งต่อไปได้ตลอดเวลา และอาจถูกดำเนินคดีสำหรับความผิดที่เกิดขึ้นบนเครื่องบิน
11.2 การชำระเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเมื่อมีการบินกลับ
จากการกระทำของท่านในลักษณะที่กล่าวถึงในข้อ 11.1 หากสายการบินตัดสินใจโดยใช้ดุลยพินิจอันสมเหตุสมผลของสายการบินในการเปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินเพื่อจุดประสงค์ในการนำตัวท่านลงจากเครื่องบิน ท่านจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เป็นผลจากการเปลี่ยนเส้นทางนั้น
ข้อ 12 การให้การบริการเสริมอื่นๆ
12.1 หากสายการบินจัดเตรียมให้บุคคลที่สามให้บริการใดๆ นอกเหนือจากการขนส่งทางอากาศให้กับท่าน หรือหากสายการบินออกตั๋วโดยสารหรือบัตรกำนัลที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งหรือบริการ (นอกเหนือจากการขนส่งทางอากาศ) ที่ให้บริการโดยบุคคลที่สาม เช่น การจองโรงแรม หรือการเช่ารถ ในการดำเนินการดังกล่าวสายการบินเป็นเพียงตัวแทนของท่านเท่านั้น ข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการบุคคลที่สามจะถูกนำมาใช้บังคับ
12.2 หากสายการบินให้บริการขนส่งทางบกแก่ท่านด้วย อาจมีการใช้เงื่อนไขอื่นกับการขนส่งทางบกดังกล่าว ท่านสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขดังกล่าวจากสายการบินได้
ข้อ 13 การบริหารระเบียบพิธีการต่างๆ ในการเดินทาง
13.1 เอกสารการเดินทาง
13.1.1 ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการขอเอกสารการเดินทางและวีซ่าที่จำเป็นทั้งหมด และในการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ข้อเรียกร้อง และข้อกำหนดในการเดินทางทั้งหมดของประเทศที่จะเดินทางออก เข้า หรือผ่านเพื่อต่อเครื่อง
13.1.2 สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาต่อผู้โดยสารใดๆ ที่เป็นผลจากการที่ผู้โดยสารไม่ได้รับเอกสารหรือวีซ่าดังกล่าว หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ข้อเรียกร้อง ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ หรือคำแนะนำดังกล่าว
13.1.3 ก่อนการเดินทาง และ/หรือ ระหว่างทาง ท่านต้อง/อาจต้องแสดงเอกสารเพื่อเดินทางออก เข้า เอกสารรับรองสุขภาพ และเอกสารอื่นๆ ทั้งหมดตามที่กฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ความต้องการ หรือข้อกำหนดอื่นๆ ของประเทศที่เกี่ยวข้องกำหนด และอนุญาตให้สายการบินรับและเก็บสำเนาไว้ สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการขนส่งหากท่านไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ หรือเอกสารการเดินทางของท่านไม่เป็นไปตามระเบียบ
13.2 การปฏิเสธการเข้าประเทศ
หากท่านถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศใดๆ ท่านจะต้องรับผิดชอบค่าปรับหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่รัฐบาลที่เกี่ยวข้องเรียกเก็บกับสายการบินและค่าใช้จ่ายในการขนส่งท่านจากประเทศนั้น สายการบินจะไม่คืนเงินค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับการขนส่งไปยังจุดที่ถูกปฏิเสธหรือปฏิเสธการเข้าเมือง
13.3 ผู้โดยสารต้องรับผิดชอบค่าปรับ ค่าใช้จ่ายในการคุมขัง และอื่นๆ
หากสายการบินจำเป็นต้องจ่ายค่าปรับใดๆ หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องมาจากการที่ท่านไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง ข้อเรียกร้อง หรือข้อกำหนดในการเดินทางอื่นๆ ของประเทศที่เกี่ยวข้อง หรือต้องแสดงเอกสารที่จำเป็น ท่านจะต้องคืนเงินให้สายการบินเมื่อสายการบินทวงถามตามจำนวนเงินใดๆ ที่จ่ายไปแล้วหรือรายจ่ายที่เกิดขึ้น สายการบินอาจใช้การชำระเงินหรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวหักจากมูลค่าของการขนส่งที่ยังไม่ได้ใช้บนตั๋วโดยสารของท่าน หรือเงินใดๆ ของท่านที่อยู่ในครอบครองของสายการบิน
13.4 การตรวจสอบของศุลกากร
หากจำเป็น ท่านจะต้องเข้ารับการตรวจสอบสัมภาระของท่านโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ สายการบินไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่ท่านได้รับจากการตรวจสอบดังกล่าวหรือจากการที่ท่านไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้
13.5 การตรวจสอบความปลอดภัย
ท่านจะต้องยอมให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยโดยรัฐบาล เจ้าหน้าที่สนามบิน ผู้ให้บริการขนส่ง หรือโดยสายการบิน
ข้อ 14 ผู้ให้บริการขนส่งร่วมกัน
การขนส่งที่สายการบินและผู้ให้บริการขนส่งรายอื่นที่ดำเนินการภายใต้ตั๋วโดยสารเดียวหรือตั๋วโดยสารร่วมจะถือว่าเป็นการดำเนินการเดียวกันตามจุดประสงค์ของอนุสัญญา
ข้อ 15 ความรับผิดต่อความเสียหาย
15.1 การบังคับใช้
ความรับผิดของผู้ให้บริการแต่ละรายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของท่านจะถูกกำหนดตามเงื่อนไขการขนส่งของผู้ให้บริการ บทบัญญัติความรับผิดของสายการบินมีดังนี้:
เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อนี้ การขนส่งระหว่างประเทศตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาจะอยู่ภายใต้กฎความรับผิดของอนุสัญญา
15.2 การเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บของผู้โดยสาร
15.2.1 ความรับผิดของสายการบินต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรณีการเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือการบาดเจ็บทางร่างกายอื่นๆ ของผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุจะไม่มีข้อจำกัดทางการเงินใดๆ ไม่ว่าจะกำหนดโดยกฎหมาย อนุสัญญา หรือสัญญา
15.2.2 สำหรับความเสียหายใดๆ ที่มีมูลค่ารวมเท่ากับ 128,821 หน่วยสิทธิพิเศษถอนเงิน สายการบินจะไม่ยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของสายการบินโดยการพิสูจน์ว่าสายการบินและตัวแทนของสายการบินได้ใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายหรือเป็นไปไม่ได้ที่สายการบินหรือตัวแทนของสายการบินจะใช้มาตรการดังกล่าว
15.2.3 โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติของข้อ 15.3.2 หากสายการบินพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเกิดจากหรือมีส่วนทำให้เกิดความประมาทเลินเล่อของผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สายการบินอาจได้รับการยกเว้นทั้งหมดหรือบางส่วนจากความรับผิดของสายการบินตามกฎหมายที่บังคับใช้
15.2.4 สายการบินจะชำระเงินล่วงหน้าตามที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจทันทีตามสัดส่วนความยกลำบากของบุคคลธรรมดาที่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย โดยไม่ชักช้า และในทุกกรณีภายในสิบห้าวันหลังจากที่มีการระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาที่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
15.2.5 โดยไม่กระทบต่อข้อ 15.3.4 การจ่ายเงินล่วงหน้าจะต้องไม่น้อยกว่า 15,000 หน่วยสิทธิพิเศษถอนเงิน ต่อผู้โดยสารหนึ่งคน ในกรณีที่เสียชีวิต
15.2.6 การชำระเงินล่วงหน้าจะไม่ถือเป็นการรับรู้ความรับผิดและอาจหักล้างกับจำนวนเงินที่ชำระในภายหลังตามความรับผิดของสายการบิน แต่ไม่สามารถคืนได้ ยกเว้นในกรณีที่อธิบายไว้ในข้อ 15.2.3 หรือในสถานการณ์ที่ต่อมาพิสูจน์ได้ว่าผู้ได้รับเงินล่วงหน้าก่อให้เกิดหรือมีส่วนทำให้ได้รับความเสียหายโดยประมาทหรือไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
15.2.7 สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อความเจ็บป่วย การบาดเจ็บ หรือความทุพพลภาพใดๆ รวมถึงการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากสภาพร่างกายของท่านหรือต่อความรุนแรงขึ้นของอาการดังกล่าว
15.3 สัมภาระ
15.3.1 สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายต่อสัมภาระที่ไม่ได้โหลดใต้ท้องเครื่อง เว้นแต่ความเสียหายดังกล่าวจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของสายการบิน
15.3.2 ยกเว้นในกรณีของการกระทำหรือการละเว้นที่กระทำโดยเจตนาที่จะก่อให้เกิดความเสียหายหรือประมาทเลินเล่อ และโดยรู้ว่าความเสียหายอาจเกิดขึ้น ความรับผิดของสายการบินในกรณีของความเสียหายต่อสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องจะถูกจำกัดตามที่บัญญัติไว้ในอนุสัญญา โดยมีเงื่อนไขว่าหากเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับข้อจำกัดความรับผิดที่แตกต่างกันจะมีผลบังคับใช้ หากน้ำหนักของสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องของท่านไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในป้ายสัมภาระ จะถือว่าน้ำหนักรวมของสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องไม่เกินน้ำหนักสัมภาระที่อนุญาตโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับชั้นการขนส่งที่เกี่ยวข้อง
15.3.3 สายการบินจะไม่รับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากสัมภาระของท่าน ท่านจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากสัมภาระของท่านต่อบุคคลหรือทรัพย์สินอื่น รวมถึงทรัพย์สินของสายการบิน
15.3.4 เราจะไม่รับผิดใดๆ ต่อความเสียหายต่อสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บรรจุในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องภายใต้ข้อ 8.3 รวมถึงสิ่งของที่แตกหักง่ายหรือเน่าเสียง่าย สิ่งของที่มีมูลค่าพิเศษ เช่น เงิน อัญมณี โลหะมีค่า คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล อุปกรณ์ เอกสารเปลี่ยนมือได้ หลักทรัพย์หรือสิ่งของมีค่าอื่นๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทางและเอกสารระบุตัวตนอื่นๆ หรือตัวอย่าง
15.4 ทั่วไป
15.4.1 หากสายการบินออกตั๋วโดยสารหรือถ้าสายการบินตรวจสอบสัมภาระสำหรับการขนส่งโดยผู้ให้บริการรายอื่น สายการบินจะดำเนินการในฐานะตัวแทนของผู้ให้บริการรายอื่นเท่านั้น อย่างไรก็ตามสำหรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ให้บริการขนส่งรายแรกหรือรายสุดท้ายได้
15.4.2 สายการบินไม่รับผิดต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่สายการบินปฏิบัติตามหรือการที่ท่านไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้หรือกฎและข้อบังคับของรัฐบาล
15.4.3 ยกเว้นที่อาจกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นโดยเฉพาะในเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้หรือโดยกฎหมายที่บังคับใช้ สายการบินจะต้องรับผิดต่อท่านเฉพาะค่าชดเชยความเสียหายที่สามารถเรียกคืนได้สำหรับความสูญเสียที่พิสูจน์แล้วเท่านั้น
15.4.4 สัญญาการขนส่ง รวมถึงเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้ และข้อยกเว้นหรือการจำกัดความรับผิด ใช้กับตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ลูกจ้าง พนักงาน และตัวแทนของสายการบินในขอบเขตเดียวกับที่มีผลใช้บังคับกับสายการบิน จำนวนเงินทั้งหมดที่ได้รับคืนจากสายการบินและจากตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย พนักงาน ตัวแทน และบุคคลดังกล่าวจะต้องไม่เกินจำนวนความรับผิดของสายการบินเอง ถ้ามี
15.4.5 ไม่มีข้อใดในเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้ที่จะยกเว้นข้อยกเว้นหรือการจำกัดความรับผิดของสายการบินภายใต้อนุสัญญาหรือกฎหมายที่บังคับใช้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดแจ้ง
15.4.6 ไม่มีข้อใดในเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้ที่จะยกเว้นข้อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของสายการบินหรือการป้องกันใดๆ สำหรับสายการบินภายใต้อนุสัญญาหรือกฎหมายที่บังคับใช้จากหน่วยงานประกันสังคมสาธารณะหรือบุคคลใดๆ ที่รับผิดชอบในการจ่ายค่าชดเชยหรือได้จ่ายค่าชดเชยแล้วในส่วนที่เกี่ยวกับการเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือการบาดเจ็บทางร่างกายอื่นๆ ของผู้โดยสาร
ข้อ 16 ข้อจำกัดเรื่องเวลาในการเรียกร้องและการดำเนินคดี
16.1 หนังสือเรียกร้องสินไหม
16.1.1 การยอมรับสัมภาระโดยผู้ถือป้ายสัมภาระโดยไม่มีการร้องเรียน ณ เวลาที่จัดส่งถือเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าสัมภาระถูกส่งมอบในสภาพที่ดีและเป็นไปตามสัญญาการขนส่ง เว้นแต่ท่านจะพิสูจน์เป็นอย่างอื่น
16.1.2 หากท่านต้องการยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีเกี่ยวกับความเสียหายต่อสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านต้องแจ้งให้สายการบินทราบทันทีที่ท่านพบความเสียหาย และอย่างช้าที่สุดภายในเจ็ด (7) วันหลังจากได้รับสัมภาระ หากท่านต้องการยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีเกี่ยวกับความล่าช้าของสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง ท่านต้องแจ้งให้เราทราบภายในยี่สิบเอ็ด (21) วันนับจากวันที่ท่านควรได้รับสัมภาระ การแจ้งดังกล่าวทุกครั้งจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร
16.2 ข้อจำกัดการดำเนินคดี
สิทธิในความเสียหายใดๆ จะถูกระงับหากไม่มีการดำเนินคดีภายในสองปีนับจากวันที่เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง หรือวันที่เครื่องบินถูกกำหนดให้มาถึง หรือวันที่หยุดการขนส่ง วิธีคำนวณระยะเวลาการดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมายของศาลที่พิจารณาคดี
ข้อ 17 เงื่อนไขอื่นๆ
17.1 การขนส่งท่านและสัมภาระของท่านนั้นเป็นไปตามกฎระเบียบและเงื่อนไขอื่นๆ ที่สายการบินบังคับใช้หรือนำมาใช้ กฎระเบียบและเงื่อนไขเหล่านี้มีความสำคัญและเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้เป็นต้น:
17.1.1 การขนส่งผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง สตรีมีครรภ์ และผู้โดยสารที่ป่วย
17.1.2 ข้อจำกัดในการใช้อุปกรณ์และสิ่งของอิเล็กทรอนิกส์
17.1.3 การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเครื่องบิน
17.1.4 นโยบายการชดเชยกรณีถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง ท่านสามารถขอข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ได้จากสายการบิน และ
17.1.5 ข้อจำกัดบางประการของสนามบินเกี่ยวกับการขนส่งของเหลว สเปรย์ และเจล
ข้อ 18 การตีความ
18.1 ชื่อของแต่ละข้อในเงื่อนไขการขนส่งเหล่านี้มีไว้เพื่อความสะดวกเท่านั้น และไม่ได้ใช้สำหรับการตีความข้อความ
18.2 รหัสของสายการบินศรีลังกา คือ UL
ข้อ 19 กฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศ (APPR) สำหรับผู้โดยสารชาวแคนาดา
ผู้โดยสารชาวแคนาดา
กฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศ (APPR)
กฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศของแคนาดา (APPR) อาจให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมแก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปหรือออกจากแคนาดา กฎระเบียบนี้ใช้กับ "เที่ยวบินที่บินไป บินออกจาก และบินภายในแคนาดา รวมถึงเที่ยวบินต่อเครื่อง" เมื่อแผนการเดินทางของผู้โดยสารเกี่ยวข้องกับเที่ยวบินระหว่างจุดสองจุดนอกแคนาดาที่เชื่อมต่อกับเที่ยวบินที่บินไป หรือบินออกจากแคนาดา กฎระเบียบ APPR จะใช้บังคับกับจุดเหล่านั้นหรือไม่จะขึ้นอยู่กับประเภทของค่าโดยสารและสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินนั้น
กฎระเบียบ APPR มีผลทางกฎหมายในสองขั้นตอน - ภาระผูกพันเบื้องต้นมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2019 (เกี่ยวกับการสื่อสารข้อมูลสำคัญ การถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่อง กรณีล่าช้าที่ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ สัมภาระ และการขนส่งเครื่องดนตรี) และภาระผูกพันที่เหลือมีผลบังคับใช้วันที่ 15 ธันวาคม 2019
ประกาศมาตรฐาน
หากท่านถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องหรือเที่ยวบินของท่านถูกยกเลิกหรือล่าช้าเป็นเวลาอย่างน้อยสองชั่วโมง หรือสัมภาระของท่านสูญหายหรือเสียหาย ท่านอาจมีสิทธิ์ได้รับการปฏิบัติและการชดเชยตามมาตรฐานบางประการภายใต้กฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิผู้โดยสารของท่าน โปรดติดต่อผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศของท่าน หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของหน่วยงานการขนส่งของแคนาดา
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
ติดต่อสายการบินศรีลังกาหากท่านมีคำถามเกี่ยวกับสิทธิ์ของท่าน หรือต้องการยื่นเรื่องร้องเรียนตามกฎการคุ้มครองผู้โดยสารของกฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศของแคนาดา หากท่านไม่พอใจกับการแก้ปัญหาการร้องเรียนของสายการบินศรีลังกาท่านสามารถส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานการขนส่งของแคนาดาได้
เงื่อนไขการขนส่งของสายการบินศรีลังกา
https://www.srilankan.com/en_uk/corporate/conditions-of-carriage-for-passengers-and-baggage
ติดต่อสายการบินศรีลังกา – customer@srilankan.com
ท่านสามารถอ่านกฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศ (SOR 2019/50) ได้ในลิงค์ด้านล่างนี้
http://www.gazette.gc.ca/rp-pr/p2/2019/2019-05-29/html/sor-dors150-eng.html
หน่วยงานการขนส่งของแคนาดา - https://www.canada.ca/en/transportation-agency.html
ปฏิเสธการขึ้นเครื่อง
มีหลายครั้งที่ผู้โดยสารจองที่นั่งบนเที่ยวบินของสายการบิน แต่ตัดสินใจที่จะไม่เดินทางโดยไม่แจ้งให้สายการบินทราบ สายการบินติดตามการจองเที่ยวบินอย่างใกล้ชิด และสายการบินจะกำหนดจำนวนตั๋วโดยสารที่สายการบินจำหน่ายในแต่ละเที่ยวบินโดยพิจารณาถึงผู้โดยสารที่อาจตัดสินใจไม่เดินทางในเที่ยวบินนั้น บางครั้งที่สายการบินอาจจะคำนวณผิดพลาดและทำให้จำนวนการจองมากกว่าจำนวนที่นั่งที่มี ในทุกครั้งที่มีการจองเกิน สายการบินจะสอบถามผู้โดยสารทุกคนว่าพวกเขาเต็มใจสละที่นั่งเพื่อแลกกับค่าชดเชยโดยสมัครใจหรือไม่ก่อนที่สายการบินจะปฏิเสธการขึ้นเครื่องโดยไม่สมัครใจ สายการบินจะยืนยันผลประโยชน์สำหรับผู้โดยสารที่สละที่นั่งโดยสมัครใจเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้โดยสารต่อไปนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่ถูกปฏิเสธการขนส่ง:
- ผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพัง
- ผู้โดยสารที่มีความทุพพลภาพและผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือ
- สมาชิกในครอบครัวที่เดินทางด้วยกัน
- ผู้โดยสารที่ก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่องด้วยตั๋วโดยสารใบเดียวกัน
สายการบินจะไม่นำผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องอยู่แล้วลงจากเครื่อง ยกเว้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย หรือด้านสุขภาพ
สิทธิ์เพิ่มเติมอาจรวมถึงผู้ให้บริการที่จัดเตรียมการเดินทางแบบอื่นให้กับท่าน การสื่อสารข้อมูลกับท่าน การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับท่าน การคืนเงินตั๋วโดยสารให้กับท่าน และการชดเชยความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับท่าน
ในกรณีที่ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง สายการบินอาจต้องชดเชยให้ท่านเป็นเงินจำนวนดังต่อไปนี้:
- $900 CAD หากเที่ยวบินของผู้โดยสารมาถึงจุดหมายปลายทางที่ระบุไว้ในตั๋วโดยสารเดิมล่าช้าน้อยกว่าหกชั่วโมง
- $1,800 CAD หากเที่ยวบินของผู้โดยสารมาถึงจุดหมายปลายทางที่ระบุไว้ในตั๋วโดยสารเดิมล่าช้าเป็นเวลาหกชั่วโมงขึ้นไป แต่น้อยกว่าเก้าชั่วโมง และ
- $2,400 CAD หากเที่ยวบินของผู้โดยสารมาถึงจุดหมายปลายทางที่ระบุไว้ในตั๋วโดยสารเดิมล่าช้า 9 ชั่วโมงขึ้นไป
ความล่าช้าและการยกเลิก
ในกรณีที่เที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิก สายการบินจะแจ้งให้ท่านทราบ:
- สาเหตุของความล่าช้า/การยกเลิก
- การดูแลและค่าชดเชยที่สายการบินจะมอบให้แก่ท่าน และ/li>
- การไล่เบี้ยกับสายการบินรวมถึงทางเลือกอื่นๆ ของท่านกับ CTA
สายการบินจะแจ้งข้อมูลสถานะเที่ยวบินใหม่ให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด ในกรณีที่เกิดความล่าช้า สายการบินจะแจ้งการอัปเดตสถานะทุกๆ 30 นาที จนกว่าจะกำหนดเวลาออกเดินทางใหม่หรือมีการเตรียมการเดินทางใหม่
ภาระผูกพันของสายการบินในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลและการชดเชยขึ้นอยู่กับสาเหตุของการหยุดชะงักของเที่ยวบิน
- หากสาเหตุของความล่าช้า/การยกเลิกอยู่ภายใต้การควบคุมของสายการบิน และไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สายการบินจะเสนอการดูแลและการชดเชย และจองใหม่ให้ท่านเพื่อให้แผนการเดินทางของท่านสมบูรณ์หรือคืนเงินให้กับท่าน
- หากสาเหตุของความล่าช้า/การยกเลิกอยู่ภายใต้การควบคุมของสายการบินและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สายการบินจะดูแลและจองให้ท่านใหม่เพื่อให้แผนการเดินทางของท่านสมบูรณ์หรือคืนเงินให้กับท่าน
- หากสาเหตุของความล่าช้า/การยกเลิกอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน หน้าที่ของสายการบินคือเพียงจองเที่ยวบินให้ท่านใหม่เพื่อให้แผนการเดินทางของท่านสมบูรณ์เท่านั้น
เหตุการณ์ที่ถือว่าอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบินได้แก่:
- สภาพอากาศหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเที่ยวบินอย่างปลอดภัยได้
- คำแนะนำจากการควบคุมการจราจรทางอากาศ
- ปัญหาการดำเนินงานสนามบิน
- เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
- ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย
- เครื่องบินชนกับสัตว์ป่า
- สงครามหรือความไม่มั่นคงทางการเมือง
- การกระทำที่ผิดกฎหมายหรือการก่อวินาศกรรม
- ประกาศถึงนักบิน (ตามที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบการบินของแคนาดา)
- ข้อพิพาทด้านแรงงานภายในผู้ให้บริการขนส่งหรือผู้ให้บริการที่สำคัญ เช่น สนามบินหรือผู้ให้บริการการเดินอากาศ
- ข้อบกพร่องในการผลิตในเครื่องบินที่ทำให้ความปลอดภัยของผู้โดยสารลดลงและที่ระบุโดยผู้ผลิตหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจ หรือ
- คำร้องขอจากตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ศุลกากร
การดูแลที่สายการบินจะมอบให้:
หากสายการบินไม่ได้แจ้งให้ท่านทราบถึงการหยุดชะงักของเที่ยวบินอย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทางที่กำหนด และยกเว้นเมื่อการหยุดชะงักอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน หากเที่ยวบินถูกยกเลิกหรือเมื่อเที่ยวบินล่าช้าถึงสองชั่วโมง สายการบินจะให้สิ่งต่อไปนี้กับท่าน:
- อาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และ
- การเข้าถึงวิธีการสื่อสาร (เช่น Wi-Fi ฟรี)
หากท่านต้องรอเที่ยวบินใหม่ของท่านข้ามคืน สายการบินจะให้ที่พักโรงแรมหรือที่พักที่เทียบเท่ากันฟรี และจัดให้มีบริการรับส่งฟรีไปและกลับจากที่พักดังกล่าว
ค่าชดเชยที่สายการบินจะมอบให้:
หากสายการบินแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุขัดข้องล่วงหน้า 14 วันหรือน้อยกว่านั้น สายการบินจะจ่ายค่าชดเชยสำหรับความไม่สะดวกของความล่าช้าและการยกเลิกเที่ยวบินหากการหยุดชะงักนั้นอยู่ในการควบคุมของความล่าช้าและการยกเลิกและไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ทั้งนี้ค่าชดเชยจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาความล่าช้าของท่าน ซึ่งพิจารณาจากเวลาที่มาถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายบนตั๋วโดยสารของท่าน
หากความยาวของความล่าช้าเท่ากับ:
- ตั้งแต่ 3 ถึง 6 ชั่วโมง ท่านจะได้รับค่าตอบแทน CAD $ 400
- ตั้งแต่ 6 ถึง 9 ชั่วโมง ท่านจะได้รับค่าตอบแทน CAD $ 700
- 9 ชั่วโมงขึ้นไป ท่านจะได้รับค่าตอบแทน CAD $ 1,000
หากท่านได้รับค่าชดเชยสำหรับเหตุการณ์เดียวกันภายใต้กฎการคุ้มครองผู้โดยสารของประเทศอื่นแล้ว ท่านจะไม่สามารถรับค่าชดเชยเพิ่มเติมภายใต้กฎข้อบังคับของแคนาดาได้ ท่านมีเวลาหนึ่งปีในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากสายการบินและจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร สายการบินจะตอบกลับภายใน 30 วันเพื่อขอคำสั่งในการชำระเงินหรือแจ้งให้ท่านทราบว่าเหตุใดจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
สายการบินจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเงินสดที่ท่านมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชย และหากมีรูปแบบอื่นของการชดเชยที่เราสามารถทำได้ ท่านจะมีสิทธิ์เลือกรูปแบบอื่นได้
หากท่านเลือกขอเงินคืนเนื่องจากการจองใหม่ไม่ตรงตามความต้องการในการเดินทางของท่าน หรือไม่มีวัตถุประสงค์ใดๆ ในการเดินทางอีกต่อไป ท่านจะได้รับเงินจำนวน CAD $400 เป็นค่าชดเชยสำหรับความไม่สะดวกนอกเหนือจากการคืนเงิน
ที่นั่งของเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี
สายการบินจะอำนวยความสะดวกในการกำหนดที่นั่งให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี โดยจะให้อยู่ใกล้กับพ่อแม่หรือผู้ปกครองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ณ เวลาที่เช็คอินหรือที่ประตูขึ้นเครื่อง ในกรณีของเด็กอายุ 4 ปีหรือน้อยกว่า สายการบินจะจัดเตรียมที่นั่งติดกัน สำหรับเด็กที่อายุ 5 ถึง 14 ปี หากสายการบินไม่สามารถจัดหาที่นั่งติดกันได้ สายการบินจะจัดเตรียมที่นั่งในแถวเดียวกันซึ่งคั่นด้วยที่นั่งไม่เกินหนึ่งที่นั่ง หากไม่มีที่นั่งว่างในบริเวณใกล้เคียงสายการบินจะขออาสาสมัครเพื่อเปลี่ยนที่นั่ง
เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีที่พอดีกับขนาดที่อนุญาตให้เป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่อง (เช่น ขลุ่ยหรือไวโอลินขนาดเล็ก) จะถูกขนส่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายโดยจะเป็นส่วนหนึ่งของน้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่องของท่าน
หากเครื่องดนตรี (เช่น เบสหรือเชลโล) ไม่พอดีกับช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือเกินขนาดหรือน้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่องมาตรฐาน ท่านสามารถซื้อที่นั่งเพิ่มเติมเพื่อให้เครื่องดนตรีถือขึ้นเครื่องได้โดยการจัดเตรียมล่วงหน้าผ่านศูนย์ติดต่อส่วนกลางของสายการบิน
หรือท่านสามารถนำเครื่องดนตรีของท่านโหลดใต้เครื่องเป็นส่วนหนึ่งของน้ำหนักสัมภาระที่อนุญาตให้โหลดใต้เครื่องได้ หรือหากท่านมีน้ำหนักสัมภาระเกินที่อนุญาตสำหรับโหลดใต้เครื่อง ท่านสามารถซื้อสัมภาระส่วนเกินได้
สัมภาระล่าช้าและสูญหาย
ท่านต้องรายงานสัมภาระล่าช้าทันทีที่สนามบิน หรือรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 48 ชั่วโมงหลังเดินทางมาถึง ผู้โดยสารที่มีสัมภาระล่าช้ามีสิทธิ์เรียกร้องเงินช่วยเหลือชั่วคราว (IR) เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซื้อสิ่งจำเป็นทันทีและสมเหตุสมผล (ให้ส่งคำเรียกร้องเงิน IR โดยกรอกไปยังแบบฟอร์มคำเรียกร้องขอสัมภาระออนไลน์โดยส่งอีเมลไปที่ cus.bge@srilankan.com)
สำหรับสัมภาระที่อาจสูญหาย ท่านจะต้องยื่นคำร้องภายใน 21 วันหลังจากวันที่จะมาถึงตามกำหนด
ในกรณีที่ไม่พบกระเป๋าของผู้เข้าพักหลังจาก 21 วันจะถือว่าสูญหาย สำหรับการชดเชยสัมภาระล่าช้าหรือสูญหายผู้โดยสารจะต้องยื่นเอกสารต่อไปนี้พร้อมกับการเรียกร้องได้ที่ cus.bge@srilankan.com
- บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน
- ใบเสร็จ
- รายละเอียดบัญชีธนาคาร
- หนังสือเดินทาง
- ป้ายห้อยกระเป๋า
- แบบฟอร์มสละสิทธิ์การเรียกร้องที่ลงนามแล้ว
สายการบินจะคืนเงินค่าธรรมเนียมสัมภาระเพิ่มเติมที่ท่านชำระหากสัมภาระของท่านล่าช้า สูญหาย หรือเสียหาย
อนุสัญญามอนทรีออลอาจใช้บังคับในกรณีส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเที่ยวบินไปหรือกลับจากแคนาดา ดังนั้นท่านสามารถดูข้อจำกัดความรับผิดสำหรับสัมภาระล่าช้าและสูญหายได้ในอนุสัญญานี้
ความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้
ความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ หมายถึง ความล่าช้าบนลานบินหลังจากที่ประตูเครื่องบินปิดเพื่อขึ้นเครื่องหรือหลังจากที่เที่ยวบินลงจอดแล้ว
สายการบินศรีลังกาจะดำเนินการตามมาตรฐานต่อไปนี้ในกรณีที่เกิดความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้:
- ห้องน้ำอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- การระบายอากาศและการทำความเย็นหรือการทำความร้อนที่เหมาะสมของเครื่องบิน
- ดำเนินการให้สามารถสื่อสารกับคนภายนอกเครื่องบินหากเป็นไปได้
- อาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงระยะเวลาความล่าช้า เวลาของวัน และสถานที่ตั้งของสนามบิน
หากเกิดความล่าช้าที่ทำให้ไม่สามารถออกจากเครื่องได้ ท่านมีสิทธิ์ลงจากเครื่องได้ 3 ชั่วโมงหลังจากที่ประตูเครื่องบินปิดเพื่อขึ้นเครื่อง เว้นแต่เครื่องบินกำลังจะขึ้น กล่าวคือ ใน 45 นาทีต่อจากนี้ และสายการบินสามารถดำเนินการให้บริการตามมาตรฐานข้างต้นต่อไปได้
มีข้อยกเว้นสำหรับภาระหน้าที่ในการให้โอกาสในการลงจากเครื่องหากไม่สามารถลงจากเครื่องได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย หรือเกี่ยวข้องกับการจราจรทางอากาศหรือการควบคุมทางศุลกากร
สายการบินจะให้โอกาสแก่ผู้โดยสารที่มีความทุพพลภาพและผู้ให้ความช่วยเหลือในการลงจากเครื่องก่อน หากเป็นไปได้
สายการบินจะอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงความช่วยเหลือในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนก่อนเครื่องขึ้นหรือหลังเครื่องลง
การเข้าถึงข้อมูล
เจ้าหน้าที่สนามบินของสายการบินจะจัดเตรียมทางเลือกอื่นในการเข้าถึงการแสดงประกาศหรือจดหมายที่ส่งถึงท่านตามคำร้องขอ ซึ่งอาจจัดเตรียมไว้ให้เมื่อมีการร้องขอ ท่านสามารถขอให้ทำขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น หรือโดยการส่งอีเมล์สำเนาหนังสือแจ้งหรือจดหมายถึงท่าน
พิกัดอัตราค่าขนส่ง
ภาระผูกพันของผู้ให้บริการขนส่งภายใต้กฎระเบียบคุ้มครองผู้โดยสารทางอากาศ (APPR) เป็นส่วนหนึ่งของพิกัดอัตราค่าขนส่ง และมีผลแทนข้อกำหนดและเงื่อนไขของการขนส่งที่ใช้ด้วยกันไม่ได้หรือไม่สอดคล้องกันใดๆ ที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราค่าขนส่งในขอบเขตของความไม่สอดคล้องกันหรือใช้ด้วยกันไม่ได้ดังกล่าว
แต่ไม่ใช่การผ่อนผันผู้ให้บริการขนส่งจากการใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการขนส่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้โดยสารมากกว่าภาระผูกพันใน APPR
พิกัดอัตราค่าขนส่งนี้รวมถึงข้อมูลที่ระบุว่าสายการบินศรีลังกาจำกัดความรับผิดของตนเกี่ยวกับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้
-การบาดเจ็บส่วนบุคคลหรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุระหว่างการขนส่งทางอากาศ
-ความล่าช้าของผู้โดยสารและ
-กำหนดระดับความเสียหายสูงสุดที่ต้องชำระสำหรับสัมภาระสูญหาย เสียหาย หรือล่าช้า
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ข้อจำกัดความรับผิดจะอยู่ภายใต้อนุสัญญาสำหรับการรวมกฎเกณฑ์บางประการสำหรับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (หรือที่รู้จักในชื่ออนุสัญญามอนทรีออล) หรืออนุสัญญาวอร์ซอในประเทศที่ไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญามอนทรีออล ศรีลังกาได้ให้สัตยาบันทั้งอนุสัญญาวอร์ซอและอนุสัญญามอนทรีออลซึ่งได้มีการตราเป็นกฎหมายในศรีลังกาโดยพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (บทบัญญัติพิเศษ) ฉบับที่ 55 ปี 1992
การจำกัดความรับผิดที่กำหนดไว้ในอนุสัญญามอนทรีออลจะได้รับการทบทวนโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ทุกช่วงเวลาห้าปีเพื่อพิจารณาว่าระดับความรับผิดจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขสำหรับภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ (การแก้ไขครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2019 ตาม ภาคผนวก ก ด้านล่าง) สิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) คือรูปแบบหนึ่งของเงินระหว่างประเทศ ที่สร้างขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และถูกกำหนดให้เป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของสกุลเงินที่แปลงสภาพได้ต่างๆ ซึ่ง ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2019 จำนวน 1 SDR เท่ากับ 1.82 ดอลลาร์แคนาดา
อนุสัญญามอนทรีออลและอนุสัญญาวอร์ซอคืออะไร อนุสัญญามอนทรีออล ปี 2003 เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศซึ่งมีผลทางกฎหมายในศรีลังกาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2019 ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎของอนุสัญญาวอร์ซอ ปี 1929 ซึ่งมีผลใช้บังคับในศรีลังกาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1948 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยอนุสัญญากรุงเฮก 1955) ให้ทันสมัยขึ้น พระราชบัญญัติการขนส่งทางอากาศ 2018 (ซึ่งรวมอนุสัญญามอนทรีออล) ได้ลงนามเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2018
บางประเทศเช่นศรีลังกาเป็นภาคีของทั้งอนุสัญญามอนทรีออลและอนุสัญญาวอร์ซอ ในขณะที่บางประเทศเป็นภาคีเพียงอนุสัญญาฉบับใดฉบับหนึ่งเท่านั้น และบางประเทศก็ไม่เป็นภาคีกับอนุสัญญาทั้งสองฉบับเลย หากประเทศใดยังไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญามอนทรีออล อนุสัญญาวอร์ซออาจยังคงใช้บังคับได้ หากประเทศใดไม่ให้สัตยาบันอนุสัญญามอนทรีออลหรืออนุสัญญาวอร์ซอ สนธิสัญญาระหว่างประเทศจะไม่มีผลบังคับใช้ และผู้ให้บริการขนส่งจะกำหนดข้อจำกัดความรับผิดของตนเอง
อนุสัญญามอนทรีออลกำหนดข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการสำหรับการขนส่งผู้โดยสาร สัมภาระ และสินค้าระหว่างประเทศดังต่อไปนี้:
- ในกรณีที่มีการถูกทำลาย การสูญหาย ความเสียหาย หรือความล่าช้าที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า – ขีดจำกัด = 22 SDR ต่อกิโลกรัม (ข้อ 22 วรรค 3)
- ในกรณีที่มีการทำลาย การสูญหาย ความเสียหาย หรือความล่าช้าเกี่ยวกับสัมภาระ – ขีดจำกัด = 1288 SDR ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน (ข้อ 22 วรรค 2)
- ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายที่เกิดจากความล่าช้าในการรับขนบุคคล – ขีดจำกัด = 5,346 SDR ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน (ข้อ 22 วรรค 1)
- ในกรณีของการบาดเจ็บทางร่างกายหรือการเสียชีวิต ผู้ให้บริการขนส่งจะต้องรับผิดเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินหรือในการดำเนินการใดๆ ในการขึ้นเครื่องหรือลงจากเครื่องเท่านั้น ผู้ให้บริการขนส่งต้องรับผิดต่อความเสียหายไม่เกิน 128821 SDR และไม่สามารถยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดได้ ผู้ให้บริการขนส่งจะไม่รับผิดต่อความเสียหายที่เกินกว่า 128821 SDR หากผู้ให้บริการขนส่งพิสูจน์ได้ว่า ก) ความเสียหายดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือการกระทำผิดหรือการละเว้นอื่นๆ ของผู้ให้บริการขนส่งหรือคนรับใช้หรือตัวแทน หรือ ข) ความเสียหายดังกล่าวมีสาเหตุมาจากความประมาทเลินเล่อหรือการกระทำผิดหรือการละเว้นของบุคคลที่สามเท่านั้น
ภาคผนวก ก
ในกรณีของการทำลาย การสูญหาย ความเสียหาย หรือความล่าช้าที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า (ข้อ 22 วรรค 3) |
19 สิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) ต่อกิโลกรัม |
22 SDR ต่อกิโลกรัม |
ในกรณีที่มีการทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือล่าช้าเกี่ยวกับสัมภาระ (ข้อ 22 วรรค 2) |
1131 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |
1288 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |
เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากความล่าช้าในการขนส่งบุคคล (ข้อ 22 วรรค 1) |
4,694 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |
5-346 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรณีการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บทางร่างกายของผู้โดยสาร (สำหรับระดับแรก ข้อ 21 วรรค 1) |
113100 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |
128821 SDR สำหรับผู้โดยสารแต่ละท่าน |